ทักษิณ แจงคดียุบพรรคไทยรักไทย อ้างไม่รู้จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง

ร่ายยาว 10 หน้า อ้างไม่ได้รู้เห็นจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง พร้อมเสนอให้คณะกรรมการตุลาการรัฐธรรมนูญซักถามผ่านทางวีดีโอคอนเฟอเร็นท์

นายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความแก้ต่างคดีที่อัยการสูงสุดยื่นคำร้องให้ยุบพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า

วันนี้ ( 23 ก.พ. ) ทีมกฎหมายของพรรคไทยรักไทย ได้นำคำชี้แจงของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญในคดีนี้และเป็นพยานลำดับที่ 1 ของพรรคไทยรักไทย ยื่นต่อตุลาการรัฐธรรมนูญแล้ว โดยคำชี้แจงดังกล่าว มีความยาวประมาณ 10 หน้า

ทั้งนี้ในคำชี้แจงดังกล่าว พ.ต.ท. ทักษิณ ได้ยืนยันว่า ไม่ได้รู้เห็นเกี่ยวกับกรณีที่มีการกล่าวหาว่า ทางพรรคไทยรักไทยได้ว่าจ้างพรรคการเมืองเล็ก ให้ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 เพื่อหลีกเลี่ยงเกณฑ์คะแนนเสียงไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ในคำชี้แจง ยังระบุว่า ในการประชุมของพรรคไทยรักไทย พ.ต.ท. ทักษิณ ได้ย้ำต่อประธานที่ทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งในแต่ละภาคว่า ห้ามกระทำการที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งทางเราก็ได้มีการอ้างบันทึกรายงานการประชุมของพรรคไทยรักไทยไปด้วย

และยังได้มีการนำคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ที่ห้ามไม่ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทย กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งมีการลงข่าวในสิ่งพิมพ์และทางเว็บไซด์ อ้างเป็นพยานหลักฐานด้วย "

ในคำชี้แจงดังกล่าว ยังอ้างถึงกรณีที่ทางพรรคไทยรักไทยได้มีการเชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต. ) มาร่วมสัมมนากับพรรคไทยรักไทย เพื่อให้ผู้สมัครฯของพรรค รู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งอีกด้วย

สาเหตุที่ผู้สมัครของพรรค ได้รับเลือกตั้งเข้ามาจำนวนมาก ก็เพราะประชาชนชื่นชมในนโยบายของพรรคไทยรักไทยทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ไม่ใช่การซื้อเสียงหรือกระทำการใดๆที่เป็นการผิดกฎหมาย " สมศักดิ์ กล่าว

หลังจากยื่นคำชี้แจงของ พ. ต.ท. ทักษิณ ไปแล้ว ก็ต้องรอดูว่า ทางอัยการซึ่งเป็นผู้ร้อง จะติดใจต้องการซักถามประเด็นใดเพิ่มเติมจากคำชี้แจงที่ยื่นไปหรือไม่ หากอัยการติดใจต้องการซักถามเพิ่มเติม ทางทีมกฎหมายของพรรคไทยรักไทย ก็คงต้องหารือกับคณะตุลาการรัฐธรรมนูญในวันที่ 27 ก.พ. นี้ ซึ่งเป็นวันนัดพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักไทย ว่าจะใช้วิธีใด

เตรียมเสนอให้มีการซักถาม พ.ต.ท. ทักษิณ ผ่านทางวีดีโอคอนเฟอเร็นท์ โดยจะไม่ใช้วิธีให้ พ.ต.ท. ทักษิณ เดินทางมาให้การด้วยตนเอง เพราะไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ เนื่องจากจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง