จรัญ ย้ำ ผบ.เรือนจำทั่วประเทศต้องโปร่งใส

ย้ำดูแลด้านจิตเวชและผู้ต้องขังเอดส์ พร้อมกำชับทุกเรือนจำต้องโปร่งใส และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ภาคภูมิใจ ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยยอดจำหน่ายสินค้าราชทัณฑ์ทรุด ส่วนแบ่งรายได้นักโทษน้อย ทำให้ต้องหันไปฝึกวิชาชีพด้านบริการให้นักโทษแทน

ให้นโยบายผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศในการสัมมนา การบริหารงานราชทัณฑ์ระดับสูง โดยนายจรัญได้กำชับให้ทุกเรือนจำดูแลด้านจิตเวชให้กับผู้ต้องขัง และอยากให้สร้างระบบในการดูแลผู้ต้องขังที่ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นอกจากนี้

ฝากให้กรมราชทัณฑ์ทบทวนสัดส่วนการแบ่งผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขังจากเดิม ให้ผู้ต้องขังได้รับเพิ่มขึ้น เพื่อให้นักโทษรู้สึกว่าได้อะไรจากระบบของรัฐมากขึ้น

ขอชมเชยโครงการราชธรรม ราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ และอยากฝากให้บุคลากรราชทัณฑ์สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ภาคภูมิใจ ไม่ทุจริตหรือซื้อขายตำแหน่ง โปร่งใส โดยเฉพาะร้านสวัสดิการของเรือนจำทุกแห่ง ต้องหาวิธีทำให้โปร่งใส เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใส่ร้ายกันได้

สัดส่วนการแบ่งผลประโยชน์สินค้าฝีมือผู้ต้องขังว่า ร้อยละ 50 ของรายได้ แบ่งให้ผู้ต้องขัง ร้อยละ 35 ให้เรือนจำเพื่อเป็นทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครั้งต่อไป และร้อยละ 15 ให้ครูฝึกที่สอน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำนวนผู้ต้องขังมีมาก และหลักการแบ่งรายได้คือ นำเงินทั้งหมดที่ได้มาเฉลี่ยกับจำนวนผู้ต้องขัง ทำให้เมื่อแบ่งแล้วผู้ต้องขังมีรายได้ไม่มาก

เนื่องจากตลาดอิ่มตัว และมีการแข่งขันสูง กรมราชทัณฑ์จึงหันมาฝึกนักโทษด้านงานบริการมากขึ้น เพื่อป้อนสู่ตลาดแรงงานประเภทอุตสาหกรรมโรงงาน ทั้งนี้การฝึกวิชาชีพให้กับผู้ต้องขัง โดยหลักการแล้วไม่ได้หวังกำไรจากสินค้าฝีมือนักโทษ แต่ต้องการฝึกวิชาชีพเพื่อให้มีงานทำเมื่อพ้นโทษ เน้นให้ผู้ต้องขังทำงานที่เป็นประโยชน์ เพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่านในช่วงที่อยู่เรือนจำด้วย.