จ่อยึดทรัพย์ 16 บิ๊กขรก.คดีเรือขุด

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การดำเนินคดีฟ้องร้องกล่าวโทษทางแพ่งผู้กระทำผิด คดีทุจริตจัดซื้อเรือขุดเอลิคอตต์ รวม 16 คน ข้อหาละเมิดทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ คิดเป็นวงเงินความเสียหายกว่า 881 ล้านบาท

ล่าสุดได้ลงนามคำสั่งทางปกครอง ตามพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทำหนังสือแจ้งข้อกล่าวโทษให้ทั้ง 16 คนรับทราบ จากนั้นมีเวลา 15 วันอุทธรณ์คำสั่งกลับมา แต่หากไม่อุทธรณ์ภายใน 30 วัน กรมจะฟ้องร้องทางแพ่ง เพื่อยึดทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป แต่หากผู้ถูกกล่าวโทษอุทธรณ์ กรมจะเสนอกระทรวงคมนาคม พิจารณาแนวทางดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับรายชื่อผู้ถูกกล่าวโทษ 16 คน ประกอบด้วย 1.นายจงอาชว์ โพธิสุนทร อดีตอธิบดีกรมเจ้าท่า (กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ปัจุบัน) ต้องรับผิดวงเงิน 102 ล้านบาท 2.เรือตรีสัญชัย กุลปรีชา ต้องรับผิด 129.1 ล้านบาท 3.เรือตรีประเวช รักแผน ต้องรับผิด 129.1 ล้านบาท 4.เรือตรีวิเชฏฐ์ หรือนายจรูญเกียรติ พงษ์ทองเจริญ ต้องรับผิด 129.1 ล้านบาท 5.นายปัญญา ส่งเจริญ ต้องรับผิด 129.1 ล้านบาท 6.นายชาญชัย หรือณกฤตพล ชื่นเชย ต้องรับผิด 20 ล้านบาท 7. นายดนัย ศรีพิทักษ์ ต้องรับผิด 81 ล้านบาท

8.นายอิทธิพล กาญจนกิจ ต้องรับผิด 61 ล้านบาท 9.เรือโทวิทย์ วรคุปต์ อดีตอธิบดีกรมเจ้าท่า ต้องรับผิด 32 ล้านบาท 10.นายถวัลรัฐ อ่อนศิระ อดีตอธิบดีกรมขนส่งทางน้ำฯ ต้องรับผิด 8 ล้านบาท 11.นายเฟื่อง พานิชกิจ ต้องรับผิด 8 ล้านบาท 12.ร.ต.อ.ขจร เทศมาสา ต้องรับผิด 8 ล้านบาท 13.นายพินิจ เชาว์วิชารัตน์ ต้องรับผิด 8 ล้านบาท 14.นาวาตรีโชคชัย พุชประดิษฐ์ ต้องรับผิด 8 ล้านบาท 15.นางวิลาวรรณ ศิริงามเพ็ญ ต้องรับผิด 8 ล้านบาท และ 16.นายวิเชฎฐ์ โรจนธรรมกุล ต้องรับผิด 20 ล้านบาท รวมความเสียหาย 881 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการจัดซื้อเรือขุดร่องน้ำจากบริษัท เอลิคอตต์ฯ ดำเนินการมาแล้วเกือบ 10 ปี โดยกรมเจ้าท่าสมัยนั้นว่าจ้างเอกชนดังกล่าวเป็นผู้ประกอบเรือ แต่ภายหลังเมื่อเบิกจ่ายเงินตามงวดของงานการต่อเรือขุดกลับไม่คืบหน้า และมีข้าราชการระดับสูงกว่า 16 คนเข้าไปเอื้อประโยชน์กับเอกชนสามารถเบิกจ่ายเงินตามงวดงานได้ จนท้ายที่สุดบริษัท เอลิคอตต์ฯ ล้มละลาย และจนถึงขณะนี้ประเทศไทยก็ยังไม่ได้รับเรือขุด ส่งผลให้เกิดความสูญเสียเงินงบประมาณไปเกือบ 1,000 ล้านบาท