สุดทึ่งหนุ่มใจบุญปล่อยเต่านาน2ปี

ทึ่งหนุ่มปะทิวใจบุญแถมมีจิตวิญญาณความเป็นนักอนุรักษ์อย่างน่านับถือ เมื่อพบเห็นนักล่าสัตว์ป่าหรือพ่อค้าแม่ค้า นำเต่าพันธุ์ต่างๆ ที่ควรอนุรักษ์ออกมาเร่ขายตามแหล่งชุมชนหรือในตลาดสดก็จะยกมือไหว้ขอซื้อชีวิต พาไปรักษาอนุบาลก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ เผยทำมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายปรีดา ศรีสรนัย ประธานชมรมคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชเขาพลู อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่าได้มีนายสิทธิชัย ลิบลับ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/1 หมู่ 3 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร อาชีพทำสวนยางพารา เป็นคนใจบุญมีจิตวิญญาณความเป็นนักอนุรักษ์อย่างน่านับถือ เมื่อพบเห็นนักล่าสัตว์ป่าหรือพ่อค้าแม่ค้า นำเต่าพันธุ์ต่างๆ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองออกมาเร่ขายตามแหล่งชุมชน หรือในตลาดสดก็จะยกมือไหว้ขอซื้อชีวิต พาไปรักษาอนุบาลก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ทำมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมด้วยนายดำเนิน วรพันธ์ เลขานุการชมรมคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชเขาพลู พบว่าเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ชั้นเดียว สร้างอยู่กลางสวนยางพาราเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ห่างจากบ้านประมาณ 20 เมตร มีบ่อปูนซีเมนต์ทรงสี่เหลี่ยมสูง 1 เมตร กว้าง 2 เมตร ยาว 6 เมตร แยกแบ่งกั้นเป็น 2 ห้อง ภายในมีเต่าพันธุ์ต่างๆ ประมาณ 20 ตัว หนักประมาณ 1-5 ก.ก. มีนายสิทธิชัยนักอนุรักษ์เต่ากำลังยืนดูแลอยู่

สาเหตุที่ทำเช่นนี้เพราะรู้สึกสงสารเต่าที่ถูกจับมาวางขายตามตลาดสด หรือเร่ขายตามพื้นที่ต่างๆ มีสภาพน่าเวทนา เมื่อตนไปพบเห็นเข้าก็จะยกมือไหว้ขอซื้อชีวิต ราคาตัวละตั้งแต่ 50-200 บาท ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว บางรายเมื่ออธิบายเหตุผลให้ฟังก็ยกเต่าให้มาฟรีๆ ก็มี เมื่อได้มาแล้วจะพาไปรักษาในบ่ออนุบาลจนแข็งแรง จากนั้นจึงนำไปปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ในป่าเขาพลู ครั้งละ 20-30 ตัว จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 2 ปี ปล่อยเต่าไปแล้วหลายรุ่นรวมเกือบ 200 ตัว พร้อมกับรณรงค์ให้ชาวบ้านรวมทั้งเยาวชนในหมู่บ้านหันมาอนุรักษ์สัตว์ป่าโดยเฉพาะเต่าซึ่งถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง อย่าได้บริโภคหรือล่าและนำไปขาย

นายสิทธิชัยกล่าวอีกว่า ถึงแม้ตนจะพยายามอนุรักษ์เต่า แต่ปัญหายังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวมารับจ้างในพื้นที่จำนวนมาก แรงงานเหล่านั้นนิยมบริโภคเนื้อเต่าและเนื้อสัตว์ป่า ทำให้มีราคาแพง มีการล่าจับมาขายมากขึ้น อีกอย่างก็คือปัจจุบันมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รณรงค์ปลูกป่าตามภูเขาต่างๆ ปรากฏว่าเมื่อปลูกป่าแล้วมีการปรับไถพื้นที่ให้เป็นแนวขั้นบันได เมื่อสัตว์ป่าโดยเฉพาะเต่าลงจากภูเขามาหากิน พลาดตกลงมาจากเขาก็จะไม่สามารถเดินกลับขึ้นไปได้อีก การปรับพื้นที่ปลูกป่าแบบแนวยาวขั้นบันไดเป็นอุปสรรคทำให้เต่าและสัตว์ป่าอื่นๆ อีกหลายชนิดไม่สามารถหรือปีนป่ายกลับขึ้นไป เป็นโอกาสของพรานล่าสัตว์ไปดักจับได้อย่างสบาย จึงอยากให้ปรับเปลี่ยนวิธีปลูกป่าเสียใหม่ รวมทั้งร่วมกันหามาตรการอนุรักษ์สัตว์ป่าเหล่านี้ อย่าให้มีการล่าหรือบริโภค เพราะสัตว์ส่วนใหญ่กำลังจะสูญพันธุ์

นายสิทธิชัยกล่าวต่อไปว่า เมื่อเร็วๆ นี้มีนายเอ็ดวิน วีค ชาวอังกฤษ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าวัดเขาลูกช้าง ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และคณะ ได้เดินทางมาดูเต่าที่เลี้ยงไว้ โดยกล่าวว่ารู้ข่าวของตนเพราะมีคนพูดถึงกันกระจายไปไกล ขอชื่นชมในความเป็นนักอนุรักษ์ใจบุญที่หายากในปัจจุบัน และจะช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาวิธีร่วมรณรงค์สร้างจิตสำนึกต่อประชาชนไม่ให้ล่าเต่าและสัตว์ป่าอื่นๆ เพื่อการค้าและบริโภค

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด