ตี๋หมวยแดนมังกรฮิตอยากเป็นบอดี้การ์ด

"วัยรุ่นจีนอยากเป็นบอดี้การ์ดกันเพียบ"


ไชน่าเดลี่สืบเนื่องจากอิทธิพลของภาพยนตร์ประเภทบอดี้การ์ดมาดไม่หลุดหลายเรื่อง ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และมาดเท่ห์ๆ ทั้งจากฝั่งฮ่องกงและฮอลลีวู้ดอย่าง หลี่เหลียนเจี๋ย(เจ็ท ลี) ในเรื่อง "The Bodyguard from Beijing" และเควิน คอสเนอร์ จากเรื่อง"The Bodyguard" กลายเป็นเรื่องฮอตฮิตไปเสียแล้ว เมื่อตัวเลขสถิติชี้อาตี๋รวมไปถึงอาหมวยแดนมังกรใฝ่ฝันอยากจะเป็นบอดี้การ์ดคุ้มภัยในชุดสูทมากจนไม่น่าเชื่อ

เจ๋อเหมยเจี๋ย บอดี้การ์ดของเสตท เค้าท์ซิล ลีดเดอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่เก่าแก่และมีชื่อ เล่าถึงความเหนื่อยยากในตำแหน่งของเขา เพราะเป็นครั้งแรกในอาชีพบอดี้การ์ด ที่เขาจะต้องไปรับชาวต่างชาติซึ่งเป็นแขกมีเกียรติระดับผู้นำของบริษัทที่สนามบิน

เมื่อประมาณช่วงทศวรรษที่ 90 เจ๋อมีภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ นั่นก็คือการเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยให้กับผู้นำปาเลสไตน์นายยัสเซอร์ อาราฟัดที่มาเยือนปักกิ่งในครั้งนั้น บอดี้การ์ดทุกคนจะต้องประจำอยู่ในพื้นที่และต้องพกปืนเตรียมพร้อมเสมอ ครั้งนั้นเกิดเหตุการณ์ระทึกคือมีเสียงเหมือนวัตถุระเบิด เดชะบุญที่เป็นเสียงระเบิดของเครื่องยนต์เท่านั้น

"เสน่ห์ของบอดี้การ์ด"


สำหรับอาตี๋อาหมวยที่หลงเสน่ห์ความเป็นบอดี้การ์ด ก็จะใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์อันตื่นเต้นเร้าใจของไอดอลของพวกเขา แต่สำหรับหัวใจดวงน้อยๆ ของบอดี้การ์ดที่มีต่อบุคคลสำคัญนั้น สามารถทำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความเป็นกับความตาย

อาชีพบอดี้การ์ดนั้น มักจะทำให้ทุกคนนึกภาพไปถึงกลุ่มหรือแก๊งในภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจ แต่พวกเขาไม่ใช่คนที่ถูกว่าจ้างโดยกลุ่มอันธพาล

บอดี้การ์ดจำนวนมากมาจากโรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัว หรือไม่ก็ถอนตัวออกจากกองทัพ จากรายงานการสัมภาษณ์เจ๋อนั้น บอดี้การ์ดหลายคนต้องการยกระดับศีลธรรม ความซื่อสัตย์ ความอดทน ความสงบของจิตใจ ความแข็งแกร่งหนักแน่น และบุคลิกภายนอกของตนเอง โดยพวกเขาต้องจบอย่างน้อยอนุปริญญา ที่สำคัญภาษาอังกฤษต้องแข็งแรงมาก

ส่วนมากบอดี้การ์ดของจีนจะเชี่ยวชาญในเรื่องอาวุธและมีประสบการณ์สูงเหมือนกัน สิ่งคู่กายที่ขาดไม่ได้ก็คือแว่นกันแดดสีดำ แต่นั่นไม่ได้เป็นเครื่องหมายแสดงถึงความสุขุมเย็นชาเท่านั้น แว่นกันแดดช่วยให้ตาของผมกลืนเข้ากับแสงได้อย่างรวดเร็วเมื่อผมเข้าไปอยู่ในห้อง หนันจู่ บอดี้การ์ดส่วนตัวของพระเอกนักบู๊เฉิงหลงกล่าว

"กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด"


ซือจื่อเจี้ยนครูฝึกสอนตำรวจต่างประเทศคนแรกของจีนบอกเล่าประสบการณ์รองเท้าบู๊ตช่วยชีวิตว่า เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่เขาทำงานอยู่ในเรือนจำที่สหรัฐอเมริกา ซือต้องดูแลนักโทษมากกว่า 10 คนให้อยู่ในคำสั่งด้วยการเตะ ระหว่างที่เกิดจลาจลในเรือนจำ เหตุการณ์ณ์ครั้งนั้นสงบลงด้วยดี หลังจากนั้นเขาก็ไม่คิดจะสวมรองเท้าคู่อื่นอีกเลยขณะปฏิบัติงาน

บอดี้การ์ดสาวจำนวนไม่มากนักในจีนต่างก็มีอาวุธประจำกายในฝันของตนเอง บรรดาชาลี แองเจิ้ลเหล่านี้มักจะใช้ช็อคโกแลตมาเสริมสร้างพละกำลังและความแข็งแกร่งของพวกเธอเสมอ

เมื่อคิดตัวเลขกว้างๆ ของจำนวนบอดี้การ์ดรักษาความปลอดภัยแล้ว มีที่ผ่านการอนุมัติในฐานะมืออาชีพอยู่ในจีนเป็นจำนวนไม่น้อย แต่นั่นไม่ใช่กฏเกณฑ์เฉพาะเจาะจงสำหรับการเป็นบอดี้การ์ด ดังนั้นเราจะเห็นการว่าจ้างอย่างถูกกฎหมายในรูปแบบของอาชีพอื่นๆ เช่น เลขานุการ คนขับรถส่วนตัวหรือผู้ช่วย ฯลฯ ก็ได้ อีกทั้งเป็นงานที่ได้รับสวัสดิการในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เป็นที่แน่นอนว่าตลาดของอาชีพบอดี้การ์ดแดนมังกรนั้นใหญ่มาก ปัจจุบันนี้สร้างรายได้ให้คนเป็นเศรษฐีพันล้านกว่า 1,000 คน และเศรษฐีเงินล้านกว่าอีก 3,000,000 คน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนนี้อาชีพบอดี้การ์ดจะกำลังเป็นที่ต้องการ มาแรงแซงทางโค้งสำหรับวัยรุ่นแดนมังกรขณะนี้.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์