6 เด็กไทยโชว์กึ๋น กลางแดนซากุระ

หลายคนคงจำสิ่งประดิษฐ์ชื่อคุ้นหูเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น

นกช่วยนำทางคนตาบอด
เครื่องเช็ดกระจกยุคใหม่
แมงมุมดับไฟป่า
เครื่องดักจับลูกน้ำโซล่าเซลล์
แมงมุมหยิบหนังสือ
และเครื่องจับหัวใจโจร

ทั้งหมดเป็นผลงานที่เกิดจากจินตนาการและมันสมองของเด็กไทยทั้ง 6 คน ซึ่งได้นำชิ้นงานไปอวดโฉมที่ญี่ปุ่น หลังผ่านเวทีประกวดในโครงการ
"อาซิโม ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ ครั้งที่ 2" ของบริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด

เยาวชนตัวน้อยเก็บเกี่ยวเรื่องเล่าแสนสนุกมาฝากเพื่อนๆ

"พวกเรานำเสนอผลงานต่อจากเด็กญี่ปุ่นที่เข้าประกวดทั้ง 36 คน ที่สำนักงานใหญ่ฮอนด้า มอเตอร์ เมืองอาโอยามา

ผมเป็นเด็กไทยคนแรกที่นำเสนอ คือเครื่องดักจับลูกน้ำโซล่าเซลล์ ถัดไปเป็นน้องเติ้ล และฮากิม ส่วนรุ่นเล็กเริ่มจากน้องอินดี้ น้องเมฆและพริมคนสุดท้าย ขณะนำเสนอทุกคนตั้งใจฟังพวกเรามาก

และถามว่าที่เมืองไทยมีการประกวดหรือเปล่า บ้างก็ถามว่าอากาศเมืองไทยเป็นอย่างไร

ครั้งนั้นมีเพื่อนใหม่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ 3 คน คือสองพี่น้องยูตะและเคนตะ ตัวเล็กๆ ขาวๆ

ซึ่งประดิษฐ์เครื่องถ่ายรูปอัตโนมัติ และคว้ารางวัลที่ 1 ในระดับประถมปลายไปครอง และอาโออิ ผู้หญิงผมยาวที่ได้รางวัลความคิดสร้างสรรค์ ผมชอบผลงานของพวกเขามากและชอบเครื่องป้องกันผีอันเล็กๆ

เมื่อจับสัญญาณได้ว่ามีผีเครื่องนี้จะทำงาน โดยกลายเป็นหุ่นออกมาแสดงตลกให้ผีดู" คำบอกเล่าของน้องเจ ด.ช.จิรายุทธ ฉัตรเพ็ชร อายุ 12 ปี ชั้นป.6 โรงเรียนอนุบาลชัยนาท จ.ชัยนาท

"ได้ไปสนามแข่งขัน ทวินริง โมเตกิ ซึ่งเป็นสนามแข่งรถฟอร์มูล่าวันที่ใหญ่มาก วันหนึ่งเมื่อโตขึ้นอยากเป็นนักประดิษฐ์ จะได้ทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ซึ่งเกิดจากมันสมอง ไม่ลอกเลียนแบบใคร การไปทัศนศึกษาครั้งนี้ก็ได้ไอเดียในการทำเครื่องไล่นกพิราบที่ไม่ทำลายมลพิษ"

ด้านน้องเติ้ล ด.ช.อรรถสิทธ์ จารีบูรณภาพ อายุ 11 ปี โรงเรียนอนุบาลไผทวิทยา จ.นครปฐม เล่าว่า

"การนำเสนอของเด็กญี่ปุ่นบ้างก็เปิดตัวโดยการตีลังกา ผลัดกันอธิบายในเรื่องส่วนประกอบและการใช้งาน แต่ไอเดียของพวกเราไม่แพ้เด็กญี่ปุ่น หลังพรีเซนต์ "แมงมุมหยิบหนังสือ"

ทาคูย่าถามว่า เมื่อพิมพ์ข้อมูลของหนังสือที่ต้องการแล้วจะผ่านเข้าไปในสมองแมงมุมได้อย่างไร ผมตอบไปว่าทำงานผ่านเมโมรี่ที่ติดอยู่ด้านหลังแมงมุม ผ่านการประมวลผล ก่อนปฏิบัติตามคำสั่ง"

เติ้ลบอกด้วยว่า ชอบสตาร์ทัวร์ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ เหมือนท่องในอวกาศ ทำให้รู้ว่าในอวกาศมีการชนเกิดขึ้นมากมาย และได้ไปที่ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์ ภายในมีรถเก่าๆ

รวมถึงรถแข่งที่ชนะการแข่งขันเก็บไว้มากมาย และได้เห็นพัฒนาการรถจักรยานติดเครื่องยนต์คันแรก ต้นกำเนิดรถจักรยานยนต์ ที่มร.โซอิจิโร ฮอนด้า สร้างให้ภรรยา

น้องอินดี้ ด.ช.พิชญ์พล จิรวงศาพันธุ์ อายุ 9 ปี ชั้นป.3 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เล่าว่า

"ตอนไปญี่ปุ่นได้เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น แม้จะไปเที่ยวญี่ปุ่น 6 ครั้งแล้ว ทุกครั้งไม่เบื่อเลย เพราะเทคโนโลยีของญี่ปุ่นพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในทุกๆ เดือนก็ว่าได้ และที่ญี่ปุ่นเด็กๆ มีพิพิธภัณฑ์ MIRAIKAN ให้เรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์

ภายในมีแบบจำลองรูปโลก เมฆ สภาพอากาศ และได้บังคับหุ่นยนต์อาซิโมเวอร์ชั่นใหม่ ได้เห็นหุ่นยนต์ EO ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ T3 คล้ายกับตู้เย็น ก่อนพัฒนาเป็นอาซิโมในที่สุด

ผมประทับใจคุณฮิโรเซะ ซึ่งเป็นคุณพ่อของอาซิโมมากที่สร้างอาซิโมมา 17 ปี โดยไม่ท้อแท้ ผมอยากเป็นเหมือนคุณฮิโรเซะจะได้คิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ
ให้เป็นประโยชน์กับโลกของเรา

ลุงฮิโรเซะสอนผมว่า การตั้งใจพัฒนาหุ่นยนต์ใหม่ๆ ให้สังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัว จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจ

"นกช่วยนำทางคนตาบอด" ว่าตื่นเต้นมาก เด็กญี่ปุ่นหลายคนชื่นชมผลงานและสงสัยกันเยอะ ต่างถามกันเต็มไปหมดเรื่องเมโมรี่การ์ดและกังวลว่าเจ้านกโอมุวันจะหลงเสียง

ผมชอบผลงาน "อ่างอาบน้ำอัจฉริยะ" ของทาคูย่า ที่คว้ารางวัลชนะเลิศประเภททีม เป็นโมเดลที่เคลื่อนไหวได้ ทำจากสิ่งของเหลือใช้ สีสดใสสวยมากเลยครับ"

"ส่วนผมชอบอ่างอาบน้ำอัจฉริยะที่มาคู่กับกบจำลองสีเขียวๆ หน้าตาน่ารัก กบจะอ้าปากกว้างไว้รองรับน้ำฝน จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นน้ำอุ่นส่งผ่านไปในอ่างอาบน้ำ
เมื่ออยากถูหลังอ่างอาบน้ำจะมีแขนเด้งออกมาขัดหลังให้เรา ส่วนน้ำที่ใช้แล้วจะถูกส่งไปซักผ้าต่อ"

น้องเมฆ ด.ช.ฐิติพร อินพรหม อายุ 9 ปี ชั้นป.3 โรงเรียนศุภวรรณกรุงเทพฯ เจ้าของจินตนาการเครื่องเช็ดกระจกยุคใหม่ เล่าบ้าง

ได้ไปเดินป่าเฮลโล วูดส์ ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการทางธรรมชาติรายล้อมด้วยป่าลูกโอ๊คและนัท กว้างมากเดินจนเมื่อย ข้างทางจะมีภาพที่เด็กๆ
วาดไว้ติดบนบอร์ดด้วยครับ

เรื่องเล่าในวันเปิดโลกใบใหญ่ของนักคิดไทยตัวน้อย อาจนำไปสู่สิ่งประดิษฐ์อันน่าทึ่งในอีกไม่นานนี้

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด