จากเสียงสะท้อนของประชาชนจะเห็นได้ว่า สินค้าควบคุม 42 รายการนั้นยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการควบคุมราคา และบางทีผู้ผลิตสินค้าได้ใช้วิธีการลดปริมาณสินค้าในภาชนะ เลิกจำหน่ายสินค้า หรือปรับสูตรสินค้าขึ้นใหม่ และคิดราคาใหม่ เพื่อเลี่ยงไม่ให้โดนควบคุม
สำหรับผลกระทบการปรับโครงสร้างพลังงานจะเห็นว่า ราคาน้ำมันจากวันที่ 1 กุมภาพันธ์-12มีนาคม 2555
ได้มีการปรับราคาขึ้นทุกชนิด ได้แก่ ราคาน้ำมันเบนซิน 91 ปรับจาก 39.04 บาทเป็น 41.51 บาท เท่ากับเพิ่มขึ้น 2.47 บาท ,ราคาแก๊สโซฮอล์ 91 ปรับจาก 36.01 บาทเป็น 38.48 บาท เท่ากับเพิ่มขึ้น 2.47 บาท ,ราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ปรับจาก 37.76 บาทเป็น 40.23 บาท เท่ากับเพิ่มขึ้น 2.47 บาท ,ราคาดีเซล ปรับจาก 31.13 บาทเป็น 32.33 บาท เท่ากับเพิ่มขึ้น 1.20 บาท และปัจจุบันเอ็นจีวี ราคาอยู่ที่ 10 บาท(ปรับเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2555)
สถานการณ์ข้าวปัจจุบันพบว่า โครงสร้างราคาข้าวนาปรับ ประกอบด้วย ค่าแรงงาน 50% ค่าวัสดุ
เช่น ปุ๋ย ยา น้ำมัน ประมาณ 31% ค่าเช่าที่ดิน 15.5% อื่น 3.5% ทั้งนี้ ค่าแรงขั้นต่ำที่จะมีการปรับขึ้นทั่วประเทศ หลังวันที่ 1 เมษายน 2555 และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม ส่วนนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล การที่รัฐบาลซื้อข้าวในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด
มีแนวโน้มทำให้ราคาข้าวถุงในเดือนเมษายนปรับตัวสูงขึ้น 10-15% ดังนั้น ทางพรรคประชาธิปัตย์จึงมีข้อเสนอแนะตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นไป จะเป็นช่วงฤดูกาลของผลไม้หลายรายการ เช่น มังคุด เงาะ และทุเรียน ซึ่งมีการปลูกในทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออก และภาคใต้ รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จึงควรมีมาตรการรองรับผลผลิต หรือหาตลาดไว้ให้แก่ผลไม้เหล่านี้ไว้แต่เนิ่น ๆ
รัฐบาลควรมีมาตรการรองรับราคาต้นทุนที่จะสูงขึ้น จากการปรับขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ หลังวันที่ 1 เมษายน 2555
และนโยบายพลังงานใหม่ของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ราคาเชื้อเพลิงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ควรไปกดราคาหน้าฟาร์มหรือราคาขายในตลาด เพราะเป็นการแทรกแซงราคากลไกตลาด และบังคับให้ประชาชนขายสินค้าในราคาขาดทุน แต่ควรจะไปควบคุมราคาต้นทุนต่าง ๆ เช่น ควรจะตรึงราคาน้ำมันดีเซล และเอ็นจีวีไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้
นอกจากนี้ รัฐบาลควบปรับปรุงหรือแก้ไขกลไกทั้งระบบ เพราะปัจจุบันมุ่งไปที่การควบคุมราคาหน้าฟาร์มต้นทาง และการควบคุมราคาหน้าแผง
คือ ปลายทมาง แต่ไม่ได้มีการเข้าไปควบคุมพ่อค้าคนกลางระหว่างทาง ไม่ให้ขายสินค้าในราคาที่สูงเกินไป โดยรัฐบาลควรมีมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้าของสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกร และราคาผลผลิตไทย