แห่มารับ ´ยาเลิฟ´ 200ขวดหมดพรึ่บ อย.เตือนส่อผิด กม.

หลังจากศัลยแพทย์โรงพยาบาลตำรวจออกมาแถลงผลงานสุดเจ๋ง ในการคิดค้นยาแก้ปัญหา กามาบกพร่อง สร้างความฮือฮาและจุดประกายให้กับสมาชิกชาวมะเขือเผา มีความหวังให้ เจ้าโลก กลับมาชูชันผงาดง้ำ ด้วยยาน้ำชนิดทาถูได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในโลก ภายใต้ชื่อยา เลิฟ โลชั่น ที่บรรจุในขวดสุญญากาศขนาด 3 ซีซี โดยสามารถใช้ในหญิงก็ได้ชายก็ดีและวิธีใช้ก็ง่ายแสนง่าย ด้วยการหยดน้ำยาเพียงเล็กน้อย แล้วนวดคลึง บนปลายองคชาต หรือนวดอย่างแผ่วเบาที่จุดกระสันของอวัยวะเพศฝ่ายหญิง

ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 15-30 นาที ตัวยาจะแทรกซึมผ่านส่วนอ่อนนุ่มเข้าเส้นเลือดฝอย ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและไหลเวียนดีขึ้น ส่งผลให้อวัยวะเพศมีการตื่นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังถูกกระตุ้นอารมณ์ โดยแพทย์ผู้คิดค้นหวังว่าจะเป็นส่วนช่วยให้คู่สามีภรรยาที่มีปัญหาเรื่องบนเตียงไม่ลงตัว จนเกิดความเครียดและพานเป็นสาเหตุบ้านแตก ได้กลับมาพบกับความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์กันอีกครั้งนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ พ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์ มะระพฤกษ์วรรณ ศัลยแพทย์ผู้ค้นพบยาปลุกนกเขาชนิดใหม่ กล่าวเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่า ที่ออกมาเปิดเผยถึงการค้นพบวิธีการบำบัดอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชนิดใหม่ เพราะต้องการเสนอทางเลือกใหม่ของคนที่มีปัญหาทางเพศ ว่า ยังมียาชนิดทาเป็นทางเลือกใหม่ สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องการยาชนิดรับประทาน และยังสามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง หลังประกาศว่า จะแจกให้สามีภรรยาที่มีปัญหานำไปใช้จำนวน 100 ชุด

ปรากฏว่า ใน วันที่ 10 ม.ค. มีคนเข้ามาขอรับยา ซึ่งแจกไปถึง 200 ขวดจนหมดเกลี้ยง ทุกคนที่รับยาจะต้องกรอกประวัติและลงชื่อไว้เพื่อติดตามผล ส่วนยาลอตใหม่คงต้องรอไปก่อน ไม่คิดว่าจะหมดลงอย่างรวดเร็วแบบนี้ สำหรับยาตัวนี้จะมีผลกับอวัยวะเพศ เนื่องจากผิวเนื้อมีความอ่อนนุ่ม หากนำไปทาถูส่วนอื่นของร่างกายจะไม่ได้ผล

พ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์กล่าวว่า คนที่เข้ามารับแจกยา เลิฟ โลชั่น มีทั้งข้าราชการผู้ใหญ่ แพทย์ และประชาชนทั่วไป บางคนดั้นด้นเดินทางมาจากต่างจังหวัด เข้ามาขอยา แต่ยาหมดแล้วไม่รู้จะทำอย่างไร บางคนมาบอกว่าอยากช่วยออกค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมีเกย์รุ่นเดอะชื่อดังโทรศัพท์เข้ามานัดพบเนื่องจากมีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไม่คิดว่าคนจะต้องการกันมากขนาดนี้ แสดงให้เห็นได้ว่าคนไทยมีปัญหาเรื่องเพศกันมาก คนไข้ จำนวนไม่น้อยที่ไม่อยากกินยา เพราะกลัวจะมีสารตกค้างในร่างกาย การใช้ยาทาจึงเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง ผู้ใหญ่บางท่านเข้ามาพูดคุยด้วยแล้วแนะว่า น่าจะเปิดคลินิกพิเศษในโรงพยาบาล ซึ่งคงต้องคุยกันอีกที

ขณะเดียวกัน นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมประสานขอตัวอย่างยาไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจ พร้อมทั้งงานวิจัยจาก พ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์ มะระพฤกษ์วรรณ ที่ได้ประกาศว่า จะแจกยาดังกล่าวจำนวน 100 ชุด ให้กับคู่สามีภรรยาที่สนใจและติดต่อมา หากแจกโดยที่ไม่ผ่านการตรวจร่างกาย ถือว่ายาดังกล่าวต้องนำมาขึ้นทะเบียนยา และไม่ได้รับการยกเว้นตามมาตรา 13 ที่ระบุว่า ยาที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมปรุงเพื่อรักษาผู้ป่วยเฉพาะรายนั้น

ไม่จำเป็นต้องขึ้นทะเบียนยากับ อย. เพราะไม่ได้เป็นการปรุงยาเพื่อคนไข้เฉพาะราย การที่ พ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์แถลงข่าวเรื่องยาทาดังกล่าว เป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานวิจัยที่คิดค้นสำเร็จ เหมือนกับการเผยแพร่เวลาค้นพบนวัตกรรมใหม่ๆ อย.สนับสนุนการวิจัยพัฒนา แต่ในขณะเดียวกัน อย.ต้องควบคุมคุณภาพของยา แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลด้านวัตถุดิบ ลักษณะทางกายภาพ กรรมวิธี จึงไม่กล้าวิจารณ์

นพ.ศิริวัฒน์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ อย.ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศชนิดทาให้กับผู้ใดเลย มีแต่ชนิดเม็ดและฉีดที่จดทะเบียนไปแล้ว หากมีการแจกยา โดยไม่ผ่านการตรวจของ พ.ต.อ.นพ. ไพบูลย์ถือว่าเข้าข่ายการจำหน่ายจ่ายแจกให้กับประชาชนทั่วไป ในการขึ้นทะเบียนตำรับยานั้น จะต้องมีผลการศึกษาทางคลินิกเป็นที่เชื่อถือ หากเป็นจริงตามที่สื่อมวลชนระบุว่า มีการแจกให้ประชาชน 100 คู่ อาจจะมีความผิด โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และหากผลิตยาโดยไม่ได้รับอนุญาต จะต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่ เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการแถลงข่าวของ พ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์ที่ผ่านมานั้น หากเป็นการแถลงผลการศึกษาทางวิชาการ จะต้องไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการโฆษณา แต่หากจำหน่ายจ่ายแจก หรือพูดเชิญชวนให้ไปซื้อตัวยา ถือว่าเข้าข่ายการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดต้องได้รับโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ทั้งนี้ อย.จะได้รวบรวมข้อมูลเพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป