เขาหาว่า...'ผมอำมหิต' เปิดใจคนขายหมาท่าแร่ : ตะลุยข่าว โดยเสาวลักษ์ คงภัคพูน-ทวี อภิสกุลชาติ
คำสาปแช่งถึงกลุ่มคนค้าหมา...จากกลุ่มคนรักสัตว์ที่พร่างพรูในโลกอินเทอร์เน็ตยันสภากาแฟเล็กๆ ริมถนน ยิ่งตอกย้ำความเครียดแค้นชิงชัง จนทำให้ผู้ทำธุรกิจนี้แทบไม่มีที่ยืนในสังคม ต่างกับ "สุนัข" เหยื่อเปิบพิสดารข้ามชาติ ที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้ขณะถูกลำเลียงข้ามฝั่งโขงที่บ้านท่าลาด ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม กระแสสังคมต่างเทคะแนนสงสารพวกมัน ด้วยยอดเงินบริจาคช่วยเหลือสุนัขขยับสูงกว่า 18 ล้านบาทเพียงไม่กี่วัน อาจเป็นสิ่งชี้ชัดได้ว่า มีผู้สงสารสุนัขมากมายเพียงใด!?
ขณะที่โลกแห่งความเป็นจริง ยังมีอีกหลายชีวิตก้มหน้ารับชะตากรรมในความเดียดฉันท์จากสังคม
เมื่อกลุ่มผู้ค้าสุนัขถูกกล่าวหาว่า "อำมหิต" จนต้องหยุดธุรกิจการงานของตัวเองชั่วคราว รายรับหลายหมื่นบาทต้องหยุดชะงัก แต่เงินต้นและดอกเบี้ยจากรถกระบะเงินผ่อน ที่ถอยออกมาใช้ทำมาหากินไม่ได้หยุดไปด้วย เงินทองที่สะสมมาก็เริ่มร่อยหรอ รถกำลังจะถูกยึด หนี้สินกำลังเพิ่มพูน ไม่มีใครสนใจใคร่ถามว่า พรุ่งนี้พวกเขาจะเป็นอย่างไร?
"สายทอง ลาลุน" พ่อค้าสุนัขวัยชราบ้านท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร ผู้สร้างฐานะจากธุรกิจค้าสุนัขจนส่งเสียเลี้ยงดูลูกๆ จนจบปริญญาตรี เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเข้าสู่ธุรกิจนี้ว่า จากคนที่กินเนื้อสุนัข ตามวัฒนธรรมการบริโภคที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เริ่มมาเป็นผู้ชำแหละขายกินกันเองในกลุ่มชาวท่าแร่ จนมาถึงช่วงประมาณปี 2545 มีพ่อค้าชาวเวียดนามเดินทางมาติดต่อขอซื้อสุนัขจำนวนมาก หลังจากรับออร์เดอร์ ก็วางเครือข่ายไปตามจังหวัดต่างๆ กว่า 20 จังหวัด ออกรถไปตระเวนรับแลกสุนัขตามหมู่บ้าน