แววตาที่ดูเศร้าสร้อย ลิ้นที่ห้อยเหยียดยาว น้ำลายยืดย้อย และหอบแฮกๆ ตลอดเวลาของบรรดาสุนัขที่ถูกยัดทะนานกันอยู่ในกรงแคบๆ
ขนาดเพียง 40-45 ซม. กว่าพันตัว กลายภาพแห่งความหวังที่พวกมันสามารถรอดพ้นจากการเป็นอาหารจานโปรดของนักชิมในประเทศเวียดนาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและด่านกักกันสัตว์ จ.นครพนม ช่วยชีวิตให้รอดพ้นคมมีดได้หวุดหวิด แต่สุนัขบางตัวก็ต้องพิการและตายไประหว่างที่มนุษย์กำลังยัดเยียดความตายให้พวกมัน!!
การค้าหมาเพื่อบริโภค เริ่มทำเป็นธุรกิจอย่างเป็นล่ำเป็นสันในไทยกว่า 20 ปีมาแล้ว โดยมีตลาดใหญ่ที่สุดเพียงแห่งเดียว
อยู่ที่บ้านท่าแร่ ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร ด้วยการตระเวนจับหมาวัด หมาจรจัด หรือหมาที่ชาวบ้านอยากกำจัด ชำแหละขายราคาถูก เพื่อส่งออกไปขายประเทศเวียดนาม สร้างรายได้กำไรงามให้คนหันมาทำธุรกิจนี้กันมากขึ้นจนวัตถุดิบเริ่มหายากขึ้น เพราะมีการกว้านซื้อหมาด้วยการแลกถัง แม้แต่หมาที่เจ้าของเผลอก็ตกเป็นเหยื่อไปด้วย
ทำให้มีเจ้าของหมาจาก กทม.มาตามหาสุนัขที่หายไป แล้วมาพบอยู่ในคอกที่บ้านท่าแร่กำลังจะถูกส่งออกไปเวียดนาม จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการกวาดจับผู้ค้าสุนัขและช่วยชีวิตเจ้าตูบมาไว้ได้กว่า 3,000 ตัว แต่ปัจจุบันมีรอดชีวิตอยู่เพียงไม่กี่สิบตัวเท่านั้น
การตรวจยึดสุนัขครั้งฮือฮาที่สุด เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2546 ชุด ฉก.ของกรมปศุสัตว์ ตรวจพบมีการลำเลียงหมาที่ริมแม่น้ำโขง
บริเวณท่าต้นยาง ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม จึงเข้ายึดสุนัขที่เหลือจำนวน 802 ตัวไว้เป็นของกลาง และคาดว่าถูกลำเลียงข้ามไปแล้วกว่า 300 ตัว คดีนี้ ศาลตัดสินคดีด้วยการสั่งปรับเจ้าของสุนัขไม่กี่พันบาท และให้คืนของกลาง แต่เนื่องจากสุนัขเหลือไม่กี่ตัว คดีนี้จึงยุติกันไป