ปลาวาฬยักษ์ ลอยอืดเกยหาดปากพนัง

ชาวประมงเผย


พบอีกตัวลอยอยู่กลางทะเล นักวิชาการชี้ไม่เกี่ยวคลื่นลมแรงต้นเหตุการเสียชีวิตอาจเป็นเพราะกินอาหารที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป

วาฬบลูด้า เสียชีวิตเกยหาดที่ อ.ปากพนัง ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 27 ธ.ค. หลังจากที่มีชาวบ้านพบซากวาฬขนาดใหญ่ได้เกยตื้นที่ชายหาดริมทะเลบ้านท่าเข็ม ม.2 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ

สื่อข่าวเดินทางไปถึงพบชาวบ้านในละแวกดังกล่าว


กำลังมุงดูซากปลาวาฬขนาดใหญ่ อยู่เกยชายหาดบริเวณดังกล่าวมีความยาวประมาณ 13-15 เมตร ความสูงของซากประมาณ 1 เมตรเศษ สภาพเริ่มเน่าเปื่อยส่วนหางเปื่อยแพนหางขาด ส่วนหัวเริ่มเปื่อยเห็นกระดูกขากรรไกรขนาดใหญ่ กลิ่นเหม็นคลุ้ง

นายพร้อม เรืองดิษฐ์ อายุ 63 ปี อยู่ 50 ม.2 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าผู้ที่พบซากวาฬตัวนี้คนแรกคือนายเหื้อม ถือทอง เป็นสมาชิก อบต.ม.2 ต.ท่าพญา ซึ่งมีบ้านพักในบริเวณริมหาด ช่วงที่พบนั้นเป็นช่วงเช้าขณะที่นายเหื้อมกำลังเดินไปออกเรือประมง ส่วนตนเองนั้นได้มาดูแล้วยอมรับว่ามันมีขนาดใหญ่มากตนเองเกิดและเติบโตเป็นชาวประมงที่ปากพนังไม่เคยเห็นปลาวาฬที่มีขนาดใหญ่โตอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต เพิ่งเคยเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรก

นายดุสิต ทองแผน อายุ 49 ปีชาวประมงในละแวกดังกล่าวเปิดเผยว่า


ด้ออกเรือไปเมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมากลางอ่าวไทยช่วงมีน้ำลึกประมาณ 8 ศอกห่างจากฝั่งปากพนังราว 2 ชั่วโมงเศษ พบซากปลาวาฬลักษณะนี้อีก 1 ตัวซึ่งประมาณดูแล้วใหญ่กว่าซากตัวนี้ค่อนข้างมาก ซากลอยสูงพ้นผิวน้ำประมาณเกือบ 2 เมตร เข้าใจว่าน่าจะเป็นคู่ของตัวนี้ก็เป็นได้ ซึ่งตัวนี้อาจจะลอยเข้าสู่ฝั่งในช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมาเนื่องจากมีน้ำทะเลหนุนสูง

ซากของปลาตัวนี้อยากให้ทางการทำให้เหลือแค่กระดูกและนำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในโครงการรวมทั้งชาวบ้านและเยาวชนจะได้มาศึกษานายดุสิต ระบุ

นายมนูญ ตันติกุล ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช


กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบซากวาฬตัวนี้นี้เชื่อว่าเป็นวาฬประเภทฟินหรือวาฬพันธ์บลูด้า เป็นพันธ์ที่อาศัยอยู่ในทะเลลึกฝั่งอ่าวไทยขนาดโตเต็มวัยประมาณ 15 เมตรเศษน้ำหนักสูงได้ถึง 30 ตัน ลักษณะการกินอาหารจะมีการกรองเอาสัตว์ขนาดเล็กจำพวกแพลงต้อนท์เป็นอาหารหลักไม่ใช่ปลาประเภทนักล่าเหมือนฉลาม

ตัวนี้พบว่าตายมาหลายวันแล้ว แต่เพิ่งลอยมาเกยหาดชาวประมงเจอลอยอยู่ในทะเลยังไม่ชัดเจนว่า 1 หรือ 2 ตัว ส่วนสาเหตุนั้นพิสูจน์ยากเนื่องจากซากของวาฬได้เน่าไปมากแล้ว สันนิษฐานเข้าใจว่าอาจจะเป็นเพราะช่วงหลายวันที่ผ่านมาที่ทะเลค่อนข้างอยู่ในสภาพปั่นป่วนอย่างหนักหรืออาจจะมีซากเศษวัสดุในทะเลบางอย่างเข้าไปติดในระบบการกรองอาหารและไม่สามารถสลัดออกได้ตามธรรมชาติจึงทำให้ป่วยจนตาย

การเก็บซาก

นั้นจะใช้วิธีฝังกลบคาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการย่อยสลายซาก จากนั้นจะนำกระดูกมาเรียงต่อกันไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ตามความประสงค์ของชาวบ้านประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าว

น.ส.กาญจนา อดุลยานุโกศล นักวิชาการประมง 8


กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แสดงความเห็นว่าวาฬบลูด้าประเภทนี้เข้ามาหากินใกล้ฝั่งใด้ในระยะน้ำลึกเพียง 10 เมตร มักจะตามปลาเล็กและฝูงแพลงตอนเข้ามา สามารถกินอาหารได้วันละเป็นตัน

ซึ่งกรณีที่ตายแล้วมาเกยตื้นนั้น

สาเหตุเป็นไปได้ในหลายกรณีเช่นอาจจะเกิดอาการไม่สบายตามปกติ หรืออาจจะมีการฮุบเอาอาหารที่มีวัสดุแปลกปลอมขนาดใหญ่เข้าไป ซึ่งวาฬพวกนี้สามารถอ้าปากได้ถึง 180 องศา ส่วนสภาวะคลื่นลมรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมานั้นอาจจะไม่มีผลมากนัก


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์