“พาณิชย์” ลดราคาหมูอีก 5 บาท เหลือ กก.130-140 บาท ไล่บี้ “ฟาร์มใหญ่” ห้ามขายเกินกำหนด ส่วน “สหกรณ์เลี้ยงไก่” ฉะ “มาร์ค” บีบราคาไข่ตก
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ปรับลดราคาแนะนำขายปลีกเนื้อหมูลงอีก 5 บาท มีผลในวันนี้ (7 มิ.ย.) โดยราคาขายปลีกหมูเนื้อแดง (สะโพก) กรุงเทพ ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก ไม่เกินกิโลกรัมละ 130 บาท ภาคเหนือและอีสาน 135 บาท ส่วนภาคใต้ 140 บาท ส่วนราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 69-70 บาท และคาดว่าสถานการณ์ราคาหมูจะลดลงอย่างต่อเนื่องในต้นเดือน ก.ค. นี้ หลังจากผลผลิตเริ่มมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เย็นลง และสัดส่วนสูญเสียจากหมูแท้งในโรคพีอีดีน้อยลง
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบราคาทั่วประเทศ
หากผู้ประกอบการรายใดขายหมูเกินราคาแนะนำที่กำหนด จะตักเตือนเบื้องต้น แต่หากยังจงใจขายเกินราคา จะใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 29 ปรับ 1.4 แสนบาท มีโทษจำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการแก้ปัญหาราคาอาหารสำเร็จรูปราคาแพงนั้น กรมการค้าภายในจะเชิญผู้ประกอบการกลุ่มอาหารสำเร็จรูปมาหารือ เพื่อออกมาตรการแก้ปัญหาวันที่ 10 มิ.ย. นี้ เบื้องต้นให้เพิ่มทางเลือกเมนูอาหาร 25 บาทในศูนย์อาหารของห้างค้าปลีก และสถานที่ที่มีประชาชนไปใช้บริการจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน ตัวแทนสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่จากหลายจังหวัดราว 100 คน
ได้รวมตัวยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อร้องเรียนการหาเสียงด้วยการกดราคาไข่ไก่ ที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศ เนื่องจากพ่อค้าคนกลางใช้อ้างในการบีบราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มให้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
ขณะที่ นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า
ขณะนี้เกษตรกรได้เปลี่ยนพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ข้าวนาดอน และข้าวโพดจำนวน 1 ล้านไร่มาปลูกอ้อยแทน หลังจากน้ำตาลทรายตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมามีราคาดี ส่งผลให้ในปีฤดูกาลผลิตอ้อยปี 54/55 ไทยจะมีพื้นที่ปลูกอ้อยรวม 7-8 ล้านไร่ ดังนั้นโรงงานน้ำตาลอยู่ระหว่างเร่งการเจรจาในการทำสัญญาซื้อขายน้ำตาลล่วงหน้ากับผู้ค้าในต่างประเทศ เช่น อินโดนีเชีย ญี่ปุ่น จีน เพราะหากล่าช้าอาจทำให้ขายน้ำตาลได้ลำบากหรือขายได้ในราคาไม่ดี
เลขาธิการ สอน. กล่าวด้วยว่า ในฤดูกาลผลิตปี 54/55 ทั่วโลกประเมินว่าตลาดโลกจะมีปริมาณน้ำตาลล้นตลาดไม่ต่ำกว่า 10.3 ล้านตัน
ต่างจากปีนี้ที่ขาดตลาด 0.5 ล้านตัน โดยน้ำตาลในปี 54/55 มาจากน้ำตาลที่ได้จากผลผลิตอ้อยเพิ่มขึ้นกว่า 9.6 ล้านตัน เป็น 145.4 ล้านตัน และผลผลิตน้ำตาลจากที่เพิ่มขึ้นกว่า 4.6 ล้านตัน เป็น 36.8 ล้านตัน เนื่องจากทั่วโลกมีผลผลิตเพิ่ม รวมถึงประเทศในกลุ่มแอฟริกาที่หันมาปลูกอ้อยกันมาก
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday