วิจัยพบเด็กไทยขาดจิตสำนึกสาธารณะ

เผยผลวิจัยระดับโลก เด็กไทยต้องการเรียนเก่งแต่ขาดจิตสำนึกสาธารณะ เมินกิจกรรม ชุมชนอ่อนแอ ห่างเหินศาสนา และชอบโกหก

หมอเด็กชี้กัดกร่อนเศรษฐกิจพอเพียง และความสมานฉันท์ แนะครอบครัว ชุมชน และสังคม ต้องมีมุมมองเชิงบวกกับเยาวชน

น.พ.สุริยเดว ทรีปาตี หัวหน้าคลินิกวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวถึงการวิจัยเรื่อง คุณภาพวัยรุ่น : กรณีศึกษานักเรียนสายสามัญและสายอาชีพ ในเขต กทม. ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา และสงขลา จำนวน 3,000 คน โดยตัวชี้วัดคุณลักษณะและคุณภาพวัยรุ่นที่ได้รับการยอมรับที่สุดในโลก พบเยาวชนไทยประเมินตนเองว่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชนน้อยที่สุด ตามด้วยการได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ที่มีประโยชน์และคุณค่าต่อชุมชน การมีส่วนร่วมกับเพื่อนบ้าน การมีกิจกรรมทางศาสนา และการไม่พูดความจริง ซึ่งสิ่งที่เด็กต้องการปรับปรุงมากที่สุดคืออยากขยันเรียนหนังสือ ขยันทำงาน รองมาคืออยากควบคุมอารมณ์ของตนเองให้มีสติมากขึ้น สุดท้ายอยากเชื่อฟังพ่อแม่ ทำให้ครอบครัวมีความสุข ภาคภูมิใจ

วิเคราะห์จากตัวชี้วัดพบว่าวัยรุ่นไทยขณะนี้ขาดจิตสำนึกสาธารณะ ชุมชนอ่อนแอไม่สนใจกัน และขาดกิจกรรมส่วนร่วม ห่างเหินศาสนา และขาดความซื่อสัตย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นตัวกัดกร่อนเศรษฐกิจพอเพียงและสมานฉันท์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มีผลการเรียนเฉลี่ย 3 ในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 25 ได้เกรดเฉลี่ย 3.5 และกว่าร้อยละ 90 อยู่กับพ่อแม่และครอบครัวที่อบอุ่น แต่เด็กถูกหล่อหลอมจากครอบครัวให้เน้นเรื่องการเรียนเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้พ่อแม่พอใจ แต่ไม่มีจิตสำนึกสาธารณะ ทำให้เด็กแบ่งเป็น 2 ขั้ว กลุ่มที่เรียนเก่งก็จะเกาะกลุ่มกันไป แต่เด็กที่เรียนไม่เก่งก็พยายามทำพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เพื่อสร้างพื้นที่ทางสังคมของตนเองขึ้นมาก น.พ.สุริยเดว กล่าว

น.พ.สุริยเดว กล่าวด้วยว่า แนวทางการแก้ไขคือ ครอบครัว ชุมชน และสังคม ต้องหันกลับมาเน้นใน 3 เรื่องนี้ คือ 1.การมีมุมมองเชิงบวกกับเยาวชน ไม่ใช่มองว่าเด็กยุคนี้มีแต่เด็กเกเร มีแต่ปัญหา 2.การมีจิตสำนึกสาธารณะ ไม่ใช่เพียงแต่ชุมชนจะต้องทำอะไรให้เยาวชนเพียงอย่างเดียว เยาวชนก็ต้องคิดว่าจะทำอะไรให้ชุมชนบ้าง เพื่อเกิดพื้นที่ทางสังคมแทนที่จะเน้นแต่เรื่องเรียน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว และ 3.การมีสื่อดีช่วยเสริมแรงบวกให้