ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ภญ.รศ.ดร.จุฑามณี สุทธิสีสังข์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
กล่าวถึงฟอร์เวิร์ดเมล์ และข้อมูลในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่ให้นำเบตาดีนมาทาคอเพื่อป้องกันสารกัมมันตรังสีว่า ไม่ใช่วิธีการมาตรฐานที่ใช้กัน โดยเบตาดีน เป็นชื่อทางการค้าของ โพวิโดน-ไอโอดีน เป็นยาที่เอาไว้ทาฆ่าเชื้อ ทาแผลและเช็ดแผลสด หรือบริเวณที่จะผ่าตัด ไม่ใช่เอามาทาเพื่อป้องกันไอโอดีน 131 ที่เป็นสารกัมมันต รังสีจากนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม เคยมีการวิจัยว่า หากทาโพวิโดน-ไอโอดีนด้วยเทคนิคพิเศษ คือนำผ้าก๊อซที่ชุ่มยามาแปะไว้ที่ร่างกายเพื่อให้ไอไอดีนดูดซึมเข้าร่างกายต้องทามากถึง 100 มิลลิลิตร จึงจะได้ปริมาณเท่ากับไอโอดีน 1 เม็ด โดยเบตาดีนที่ขายในขณะนี้ 1 ขวดมีขนาดเพียง 15 มิลลิลิตรเท่านั้น และการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายมีตัวแปรหลายอย่างอาทิ อุณหภูมิ วิธีการทา จึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกและเชื่อฟอร์เวิร์ดเมล์
ภญ.รศ.ดร.จุฑามณี กล่าวต่อว่า ผู้ที่ควรทานยาเม็ดไอโอดีนต้องเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
เพราะเมื่อร่างกายรับไอโอดีนแล้ว จะไม่ดูดซึมไอโอดีน 131 ที่เป็นพิษต่อมไทรอยด์เข้ามาในร่างกายอีก ซึ่งยา 1 เม็ดมีฤทธิ์ เพียง 24 ช.ม. เท่านั้น หากทานมากเกินไปจะเป็นอันตราย ดังนั้นจึงไม่ควรซื้อมาทานหากไม่จำเป็น คนปกติไม่ควรทาน โดยเฉพาะคนที่แพ้อาหารทะเลเพราะจะทำให้เกิดอาการแพ้ ส่วนคนที่เป็นโรคหัวใจก็ไม่ควรทานเพราะจะมีผลให้หัวใจเต้นผิดปกติ
ด้านรศ.มานัส มงคลสุข หัวหน้ารังสีเทคนิค คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า
ยูเรเนียมที่เป็นเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น ไม่ใช่ยูเรเนียมบริสุทธิ์ จึงไม่สามารถเป็นระเบิดนิวเคลียร์ได้ หากรีแอตเตอร์ระเบิดจะมีไอโอดีน 127 และไอโอดีน 131 ออกมา แต่ขณะนี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่นรีแอตเตอร์ยังอยู่ สิ่งที่ออกมาเป็นเพียงการรั่วไหลของกัมมันต ภาพรังสี เป็นรังสีแกรมมา และเบต้า จึงไม่อยากให้คนไทยกลัวจนเกินเหตุ
รศ.มานัส กล่าวต่อว่า หากเกิดรีแอตเตอร์ระเบิดจะมีสารกัมมันตรังสีที่เป็นฝุ่นลอยไปตามกระแสลม
โดยไทยอยู่ทางทิศใต้ แต่ลมในญี่ปุ่นขณะนี้จะพัดไปทางทิศตะวันออก ไปทางสหรัฐ อเมริกา และแคนาดา มีเพียงทะเลกั้น มีระยะทางห่างจากญี่ปุ่น 8,000 ก.ม. คาดว่าจะใช้เวลา 48 ช.ม.จะไปถึงจะได้รับผลกระทบมากกว่าพัดมาทางไทย เพราะถ้าลมเปลี่ยนทิศมาทางไทย จะผ่านภูเขา ทะเล พื้นที่อีกหลายประเทศ หากจะผ่านมาถึงไทยได้คงเป็นแค่ฝุ่นปกติ ที่มีระดับของกัมมันตภาพรังสีเท่ากับระดับปกติคือ 0.2 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง