ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 7 มีนาคม มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ช่วงเปิดให้สมาชิกหารือก่อนเข้าสู่วาระ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่า
ขณะนี้รัฐบาลยังแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มไม่ถูกจุด ซึ่งถ้าไม่เป็นเพราะไร้ประสิทธิภาพ ก็มาจากการแสวงประโยชน์หรือการเก็งกำไรทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า แม่ค้าที่มาซื้อจากผู้ค้าเจ้าใหญ่นำไปขาย โดยได้กำไรเพียงขวดละ 2 บาท กำลังถูกจับและถูกปรับเป็นแสน แม้แต่ตนก็ยังไม่สามารถซื้อหาน้ำมันได้เพราะรัฐบาลเปิดให้ซื้อน้ำมันได้อย่างไม่จำกัดจึงทำให้เกิดการซื้อเพื่อการกักตุน
น.ส.รสนากล่าวว่า ตัวเลขน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ที่มาเลเซียเดือนพฤศจิกายน 2553 ราคาลิตรละ 32.93 บาท ขณะที่ไทย 42.09 บาท ห่างกัน 9.16 บาท เดือนธันวาคม 2553 มาเลเซียราคา 36.37 บาท ไทยราคา 48 บาท ห่างกัน 11.73 บาท เดือนมกราคม 2554 มาเลเซียราคา 38.52 บาท ไทย 57.45 บาท ห่างกัน 18.93 บาท ทำไมรัฐบาลจึงไม่ซื้อน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ที่บรรจุขวดมาขายตั้งแต่แรก ถ้านำเข้ามา 10 ล้านขวด ปัญหาเรื่องการกักตุนจะหมดไป เพราะราคาที่รัฐบาลขายขณะนี้ลิตรละ 47 บาท ก็ยังแพงกว่าที่ซื้อจากมาเลเซีย จึงเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเป็นการแก้ไขที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มนักธุรกิจเพื่อส่งผลกลับมาให้นักการเมืองได้ประโยชน์ในการสะสมทุนเพื่อการเลือกตั้ง การแก้ไขปัญหาแบบนี้นอกจากไร้ประสิทธิภาพยังชัดเจนว่า เป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุดและทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลควรแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ดีกว่านี้เพื่อไม่ให้มีข้อครหาว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง