คดีกำแพงโบราณโคราชวุ่นโต้กันไม่จบ
"แถลงข่าวชี้แจงหลังถูกกรมศิลป์ฯแจ้งความ"
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นายอนันต์ ชูโชติ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์กรณี รศ.เชิดชัย โชครัตนชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นำคณะผู้บริหารแถลงข่าวชี้แจงหลังถูกกรมศิลปากรแจ้งความฐานสร้างความเสียหายให้กับโบราณสถานกำแพงเมืองโคราช ว่าการที่เทศบาล อ้างเหตุผลในการฝังกลบกำแพงเมืองว่าได้ตกลงกับกรมศิลปากรแล้วว่าหากออกแบบบูรณะกำแพงล่าช้า
เทศบาลจำเป็นต้องกลบกำแพง เพื่อเดินหน้าก่อสร้างปรับปรุงสวนอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีให้เสร็จตามสัญญาก่อสร้างนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยมีข้อตกลงดังกล่าว จะเอามาอ้างไม่ได้
"ทำตามสัญญา ฟ้องไม่ได้"
เพราะเมื่อขุดพบกำแพงเมืองโบราณแล้ว บริเวณนั้นถือเป็นเขตโบราณสถาน ต้องกันที่ไว้และหยุดการก่อสร้างเพื่อรอออกแบบบูรณะให้เสร็จเรียบร้อย โดยกรมศิลปากรได้เสนอแบบบูรณะให้เทศบาลเมื่อวันที่ 28 พ.ย. แต่เทศบาลกลบโบราณสถานไปก่อนแล้วราว 1 เดือน เป็นการกระทำที่มีเจตนา ทำลายโบราณสถานชัดเจน ถึงแม้จะอนุญาตให้ขุดขึ้นมาใหม่ ก็ต้องเสียเวลาและสูญเสียงบประมาณโดยไม่จำเป็น จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ นายสุรศักดิ์ อังคสกุลเกียรติ กรรมการ หจก.ไทยเจริญศรีสะเกษ ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี กล่าวว่า ฝ่ายที่ทำลายโบราณสถานไม่ใช่เทศบาลหรือผู้รับเหมา
แต่เป็นกรมศิลปากรมากกว่า เพราะขุดขึ้นมาแล้วปล่อยให้ตากแดด น้ำท่วมขัง ไม่ยอมดูแลรักษา และมีการตกลงกันแล้วถ้ากรมศิลปากรทำแบบบูรณะล่าช้า เทศบาลก็ต้องกลบคืน การกลบดินไม่ใช่เป็นการทำลาย แต่เป็นการก่อสร้างตามสัญญาเพื่อให้แล้วเสร็จก่อนหมดสัญญาวันที่ 26 ธ.ค. ถ้าไม่ทันตนก็ต้องถูกปรับวันละ 1 แสนบาท ซึ่งการก่อสร้างขณะนี้เสร็จทันและส่งมอบงานก่อนหมดสัญญาแน่นอน เพราะฉะนั้นกรมศิลปากรจะมาฟ้องเอาผิดกับผู้รับเหมาไม่ได้ เพราะตนทำตามสัญญา.