เงินก่อการร้ายมาจากไหน

บทความ โดย ยอดรัก ตะวันรอน 3 ธันวาคม 2549 17:47 น.

"ว่าด้วยเรื่อง เงินก่อการร้าย"

ในประเทศไทย ฮัมบาลีไม่ได้ทำหน้าที่เพียงการก่อการร้ายตามธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นท่อน้ำที่สำคัญสำหรับการไหลของเงินทุนการก่อการร้ายจากขบวนการก่อการร้ายอัลกออิดะห์ของบิน ลาดิน และขบวนการของเขาด้วย การโจมตีหรือการก่อการร้ายแต่ละครั้ง เขาจะรับเงินส่งไปยังผู้ก่อการร้ายในมาเลเซียหลายต่อหลายครั้งๆ ละ 100,000 ดอลลาร์ นี่เป็นรายงานที่กลุ่มก่อการร้ายในมาเลเซียหรือ JIR ได้รับการบอกเล่า หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายเจไอจะเปลี่ยนแปลงที่พักของเขาหลายครั้งหลายหนและพยายามไม่ให้ติดต่อพบปะมุสลิมส่วนใหญ่ในภาคใต้และชุมชนมุสลิมทั่วไป ฮัมบาลีจะมีพาสปอร์ตปลอมซึ่งจะจัดทำโดยแก๊งปลอมพาสปอร์ตของประเทศเอเชียตะวันตกที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย

รายงานข่าวขององค์การสืบราชการลับชิ้นหนึ่งของฝรั่งที่เปิดเผยถึงการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย เมื่อเดือนกันยายน 2506 ชื่อ Thailand Face up to Southern Extremist Theat พรรคพวกผมคนหนึ่งจากองค์การเวิลด์ พีซ เคาน์ซิลที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฟินแลนด์และกรีซซึ่งเป็นชาวมุสลิมจากอัฟกานิสถานส่วนมาก เมื่อนำเรื่องการก่อการร้ายในประเทศมุสลิมตะวันออกกลาง และในเมืองไทยไปพูดคุยกับเขา

"ก่อการร้าย มุสลิมบ้านเรายังเกิดช้า"


ในฐานะที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งที่ของเวิลด์ พีซ เคาน์ซิล ผมมีโอกาสได้ท่องเที่ยวไปในประเทศสมาชิกขององค์การนี้ประเทศละหลายๆ ครั้ง และมีเพื่อนฝูงมากพอสมควร และทุกวันนี้ส่วนมากก็ยังติดต่อกันอยู่ เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดภาคใต้ของเราทุกวันนี้ ว่ากันตามจริงมันอาจจะเกิดช้าไปด้วยซ้ำ เพราะคนมุสลิมที่นั่น และขบวนการก่อการร้ายมุสลิมของโลกยังเห็นอกเห็นใจคนมุสลิมไทยอยู่มาก ไม่ต้องการสร้างความยุ่งยากให้ และไม่ต้องการส่งมอบภารกิจในการฆ่าคนมากเกินไป แต่เพราะนักการเมืองจากพรรคไทยรักไทยกลุ่มหนึ่งขึ้นมามีอำนาจปล้นบ้านปล้นเมือง

และชักนำสมุนบริวารเข้ามาขายบ้านขายเมือง และหาวิธีการทำลายคนมุสลิมเพื่อความสนุกสนานของพวกตัวเองตั้งแต่การสร้างท่อก๊าซของบริษัทยูโนแคลที่อำเภอจะนะ เป็นต้นมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ชาวมุสลิมที่อำเภอจะนะเคยอยู่ที่นั่นกันมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว ยังไม่เคยมีข้อขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้นคนที่นั่นมีแต่ไมตรีจิตมิตรภาพ มีแต่ความรักใคร่นับถือซึ่งกันและกัน เพราะคนมุสลิมในแผ่นดินไทยไม่ว่าที่ไหนไม่มีความแตกต่างไปจากคนไทยทั่วไป ผิดกับคนมุสลิมบางส่วนทุกวันนี้ ซึ่งเพิ่มการฆ่าฟันและปล้นทำลายคนไทยทั้งเด็กเล็ก พระสงฆ์ และวัดวาอารามเสียหายวายวอดมากขึ้น และการกระทำเหล่านั้นยิ่งจะขยายตัวออกไปในส่วนต่างๆ ของประเทศไทยไม่มีทางหยุดง่ายๆ แล้ว

มาถึงวันนี้ คนมุสลิมสู้แล้ว!


สู้กับความชั่วร้ายเลวทรามของผู้ปกครองบ้านเมืองของไทยทุกระดับ ส่วนใหญ่ใน 3 จังหวัดภาคใต้

ความจริงเรื่องเหล่านี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้น ผมเคยอยู่ใน 3 จังหวัดภาคใต้มาเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว และไม่ได้กลับไปอีก เพราะมัวแต่ไปเพลิดเพลินที่อื่นเสียหลายปี เฉพาะในประเทศคอมมิวนิสต์ในกลุ่มสังคมนิยมหรือส่วนใหญ่เป็นสหภาพโซเวียต

สมัยนั้นรถยนต์ไม่มีมากมายเหมือนทุกวันนี้ ผมเคยเดินจากปาดังเบซาร์ถึงปัตตานีด้วยเท้าเปล่า ผมยังไม่เคยได้รับอันตรายอะไรแม้แต่นิดเดียวจากคนมุสลิมในบริเวณที่ต้องเดินทางผ่านอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางในยุคนั้น และพูดท่ามกลางคนมุสลิมที่พูดภาษาไทยไม่ได้แม้แต่คนเดียวหรือแม้คำเดียว

แต่มาถึงวันนี้ ผมอัศจรรย์ใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะภาพจากโทรทัศน์ ผมเห็นภาพนักเรียนมุสลิมและเด็กผู้หญิงวัยรุ่นที่เดินคลุมหน้ากันอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองพูดภาษาไทย และภาษากลางได้ชัดเจนเหมือนภาษาของตัวเอง

"ถูกระบบการปกครองเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว"


ผมตื่นเต้น!

เต็มไปด้วยความภูมิอกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก!!

คนไทยที่ถูกทอดทิ้งของผมพูดภาษาไทยได้กันแล้วตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ จนกระทั่งเป็นสาวเป็นนางทุกคนเป็นผลผลิตและเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของแผ่นดินไทย

คนเหล่านั้นคือคนไทยที่สามารถพึ่งพาอาศัยกันได้ เป็นญาติมิตรที่ดีกันได้ และที่สำคัญเป็นคนไทยเหมือนคนไทยภาคอื่นๆ ที่นับว่าเป็นกำลังสำคัญที่จะเป็นเลือดเป็นเนื้อของประเทศชาติในอนาคต ตลอดจนกระทั่งลูกหลานของเขา

แต่ขอโทษเถอะ มันเป็นไปไม่ได้อย่างที่ผมภาคภูมิใจ เพราะคนเหล่านั้นถูกเปลี่ยนแปลงไปหมดเพราะระบบการปกครอง และพวกนักการเมืองของเรา!!

"ก่อการร้ายแทรกซึมเข้าประเทศ"

ไม่เคยมีใครรู้และไม่เคยมีใครคาดมาก่อนว่าจะมีขบวนการมุสลิมเหล่านี้ขยายตัวเข้ามาแผ่นดินไทยที่คาดไม่ถึงก็คือ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2547 มีจำนวนหนึ่งได้บุกเข้ามาที่หมู่บ้านมุสลิมที่สงบเงียบแห่งหนึ่งที่นราธิวาสจังหวัดชายแดนสุดของประเทศไทย และได้เข้าจับกุมชาย 3 คนในข้อหาที่ว่าเขาเป็นพวกสมาชิกขององค์การก่อการร้ายประจำท้องถิ่น คนทั้ง 3 กำลังเตรียมการระเบิดสถานทูตของชาวตะวันตกในกรุงเทพฯ คนทั้ง 3 รวมด้วยคนสุดท้ายที่อีกคนหนึ่งมามอบตัวทีหลังเป็นคนที่ 4 และกล่าวว่าคนเหล่านี้ได้ถูกส่งฟ้องศาลในเมืองไทยไปแล้ว

จนกระทั่งเรื่องเอาเป็นเอาตายเกิดก็ขึ้นเมื่อหน่วยสืบราชการลับตำรวจทหารของไทยพร้อมด้วยซีไอเอของอเมริกันที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ และการก่อการร้ายในประเทศไทย จับบุคคลสำคัญของหัวหน้าใหญ่คนหนึ่งของขบวนการอัลกออิดะห์ของบิน ลาดิน ที่อาคารบุญรักษ์ที่จังหวัดอยุธยาได้แก่ ฮัมบาลี แล้วพวกซีไอเอก็เอาตัวไปขังไว้ที่ค่ายกวนตานาโมในคิวบาจนบัดนี้ ก็ยังไม่มีวี่แววอะไรอีก แต่เป็นที่น่าเชื่อว่าหัวหน้าขบวนการอีกหลายคนยังคงดำเนินการต่อไปจากฮัมบาลีอยู่ทั้งในเมืองไทยและทั่วโลก

ตลอดเวลาแห่งภัยอันตรายระดับชาติคืบคลานเข้ามาทำลายบ้านเมืองอยู่อย่างเงียบเชียบเป็นแรมปีนั้น คนไทยส่วนใหญ่ทั้งชาติหรือเป็นสิบๆ ล้านคนไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย หรือไม่รู้ระแคะระคายอะไรเลย รัฐบาลไทยที่มีชื่อว่าพรรคไทยรักไทยหรือนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกับตำรวจ ทหาร และประชาชนของท่านต่างก็ไปนั่งทำมาหากิน รวมทั้งการคอร์รัปชันและขายชาติร่ำรวยกันเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน

"ปล้น ฆ่า เอากันเลย"


และในเวลาเดียวกันนั้น คนไทยทุกคนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขบวนการอัลกออิดะห์นั้น แม้ว่าฮัมบาลีจะถูกไปนอนในคุกที่กวนตานาโมแล้ว ใครจะดำเนินงานต่อจากฮัมบาลีเราก็ไม่มีใครรู้

ปล้น ฆ่า เอากันเลย!

องค์การก่อการร้ายหรือขบวนการก่อการร้ายเป็นชื่อที่อเมริกันเป็นคนตั้งชื่อเพื่อให้ทุกคนที่ได้ฟังชื่อแล้วจะต้องระมัดระวังและตื่นกลัวอย่างหนัก เพราะการสร้างความน่ากลัวอะไรขึ้นมาในโลกนั้นเป็นงานอดิเรกของอเมริกันโดยธรรมชาติ เช่น ในสมัยก่อนการพยายามทำลายผู้คนและประเทศทุกประเทศที่แข็งข้อต่อการกดขี่ขูดรีด และการเอารัดเอาเปรียบผู้อ่อนแอจนต้องมีเรื่องทำสงครามกับชาติที่อ่อนแอหลายต่อหลายชาติ ซึ่งก็ไม่มีชาติไหนที่อเมริกาประสบชัยชนะ แต่อเมริกาจะสร้างความตื่นกลัวให้แก่ประชาชนทั้งโลกจนรู้ตัวว่าถึงที่สุดแล้ว ในที่สุดก็จะเริ่มการพ่ายแพ้หรือเจ๊งไปเอง จากนั้นก็ปิดยุคสมัยที่น่ากลัว เช่น ยุคปีศาจร้ายคือคอมมิวนิสต์แล้วก็เลิกเพราะหมดน้ำยา จนเหมือนว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาในโลกนี้ยิ่งน่าอับอายไปกว่านั้นก็คือว่าอเมริกาจะต้องหันไปคบกับประเทศคอมมิวนิสต์อย่างเอาเป็นเอาตาย เช่น ประเทศรัสเซีย และคอมมิวนิสต์จีนในเวลานี้

"ตั้งข้อกล่าวหาชาวมุสลิม"


เช่นเดียวกับการก่อการร้ายสมัยใหม่ที่กำลังระบาดไปทั่วโลกด้วยการตั้งข้อกล่าวหาชาวมุสลิมที่กำลังก่อกวนประเทศต่างๆ เพื่อแสดงความเป็นอิสระหรือความเสมอภาค ความเท่าเทียมระหว่างคนในสังคมมนุษย์ เป็นเรื่องความทุกข์หรือความไม่พอใจที่คนมุสลิมที่มีต่อคนผิวขาวหรือพวกประชาชนที่นับถือศาสนาคริสต์ซึ่งได้พยายามจะยืนยันว่าตัวเองนั้นคือผู้ประเสริฐเหนือมนุษย์

แต่ในที่สุดอเมริกาก็พบว่าโครงการล่าเมืองขึ้นในเอเชียที่กำลังหลอกลวงนักการเมืองชาวเอเชีย และคาบมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่ในขณะนี้ มันก็เจอปัญหาเหมือนเก่าแม้ว่าจะตั้งกองทัพเรือไว้ควบคุมเศรษฐกิจการเมือง และความคิดความอ่านของประชาชน อเมริกาก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอีกเพราะหลายปีมาแล้ว การตื่นตัวของคนมุสลิมในภูมิภาคนี้ไม่ว่าที่ไหน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียทุกแห่งมีกองกำลังของชาวมุสลิมที่ได้เตรียมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงมานานหลายปีแล้วในการที่คนมุสลิมที่จะต้องต่อสู้กับผู้กดขี่รายนี้ในนามของขบวนการ Islamic party of liberation ซึ่งได้มีการจัดตั้งดำเนินงานมาแล้วในประทศอิสลามไม่น้อยกว่า 40 ประเทศตั้งแต่ปี 2495 เป็นต้นมา ขบวนการนี้ถือหลักศาสนาอิสลามเป็นหัวใจและเป็นเข็มมุ่งในการดำเนินการต่อสู้ และโค่นล้มศัตรู ขบวนการนี้ได้ยึดถือลัทธิมาร์กซ์-เลนินเป็นหลัก

"โจรกระจอกตัวจริง"

เจ้าของวาทะ โจรกระจอก

การฝึกอบรมและภาคปฏิบัติเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลอัฟกานิสถาน โดยมีหัวหน้าซีไอเอของอเมริกาเข้ามาควบคุมดูแลในระยะต้นๆ

โปรดศึกษาและสังเกตยุทธวิธีหรือแนวคิดในการปฏิบัติงานของผู้ก่อการร้ายใน 3 จังหวัดภาคใต้ตลอดเวลา 5-6 ที่ผ่านมานั้น โจรที่เรียกว่า ไอ้โจรกระจอก นั้นไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ แต่โจรกระจอกตัวจริงคือตำรวจ นักการเมือง และรัฐบาลไทยไม่มีใครที่ไหน!!

และคนเหล่านั้นจะมาจากไหนก็ไม่ควรห่วงใย องค์การดำเนินงานเหล่านี้มีคนมุสลิมอยู่ทั่วโลก เฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง แม้แต่อิรักเองก็ยังมีเหลืออยู่พอที่จะจ่ายมาได้

เพราะฉะนั้น เวลานี้คนไทยในภาคใต้ต้องมาอาศัยศาลาวัดอยู่กันแล้ว ถ้าบ้านเมืองเรามีแต่คนโง่เข้ามาปกป้องดูแลกันตลอดไป ไม่รู้ว่าคนไทยของเราเหล่านี้จะต้องไปลงนรกที่ไหนมีชีวิตอยู่กันต่อไป

ผมพูดได้คำเดียวว่าต้องช่วยตัวเองกันเท่านั้น

ถ้าช่วยไม่ได้ก็ต้องตายตามปกติ!

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์