ทัวริสต์แห่ขึ้นดอยท้าทายลมหนาว

วานนี้ (20 ธ.ค.)  พ.ต.ท.สุรพงษ์ บุญยืน สวส.สภ.เมืองเชียงราย รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 8 ต.ท่าสาย

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่กลางสวนผลไม้ ในห้องนอนพบศพนายอิ่นแก้ว นันต๊ะรัตน์ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน นอนแน่นิ่งอยู่บนที่นอน สวมเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อไหมพรมแขนยาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ  ตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เบื้องต้นแพทย์ระบุสาเหตุเกิดจากหัวใจล้มเหลว สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นชาวสวนผลไม้ ช่วงเย็นวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ออกไปนั่งดื่มเหล้าคลายหนาวที่ร้านขายของชำในหมู่บ้าน ตกดึกกลับเข้าบ้านนอนจนมาพบเสียชีวิต ตำรวจคาดว่าผู้ตายอาจดื่มเหล้าเข้าไปมาก ประกอบกับอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิอยู่ที่ราว 12 องศาเซลเซียส สุดท้ายหัวใจวายช็อกเสียชีวิต

ด้านนางเพ็ญศิริ ตรีสัตย์ เวรพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ

เปิดเผยว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ภาคเหนือตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส สูงสุด 26-30 องศาฯ สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว  10-25 กม.ต่อชั่วโมง อุณหภูมิต่ำสุดเช้านี้วัดได้  9.5 องศาฯ ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อากาศที่หนาวเย็นลงในภาคเหนือ

โดยเฉพาะใน จ.เชียงใหม่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสอากาศหนาวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จำนวนมาก อาทิ ดอยอินทนนท์ และดอยอ่างขาง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวขึ้นมามากวันละหลายพันคน ส่วนที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ทางอบจ.เชียงใหม่ใช้เนื้อที่ของสวนกว่า  20 ไร่ นำไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวมาประดับตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมจัดมุมให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ แต่ไฮไลต์อยู่ที่ดอกทิวลิปหลากสีสันที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นพิเศษ ขณะเดียวกัน โรงแรมทุกแห่งในจังหวัดถูกจองจนเต็มยาวไปจนถึงต้นเดือนหน้า

ส่วนที่ จ.สุรินทร์  ชาวบ้านกว่า 2 แสนคน ใน 17 อำเภอ ยังขาดแคลนเครื่องกันหนาว ขณะที่ในพื้นที่ อ.นครไทย  และ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก 

ช่วงเช้ามีหมอกหนาปกคลุม และอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 12-15 องศาฯ ชาวบ้านยังขาดแคลนเครื่องกันหนาว ต้องออกมาก่อไฟนั่งพิงคลายหนาว โดยเฉพาะใน ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย ชาวบ้านกว่า 500 ครอบครัว ซึ่งฐานะยากจน กำลังรอความช่วยเหลืออยู่  วันเดียวกัน ส่วนที่ จ.หนองคาย โดยเฉพาะที่ อ.สังคม ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาล้อมรอบและตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ช่วงเช้ามืดและกลางคืน หมอกลงหนาจัด การขับขี่รถราเป็นไปอย่างยากลำบาก มองเห็นได้เพียงระยะไม่เกิน 10 เมตรเท่านั้น จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ทางด้านมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก นำถุงยังชีพพระราชทาน ไปมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยและวาตภัยที่ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส