นายกฯนำขรก.ทั่วไทยถวายสัตย์เป็นขรก.ที่ดีและพลังแผ่นดิน
"ร่วมพิธีแสดงความจงรักภักดี"
นายกรัฐมนตรีนำข้าราชการนำถวายสัตย์เป็นข้าราชการที่ดีและพลังแผ่นดิน พร้อมกับ มหาดไทย ผบ.ชน. ตชด.ภาค 4 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 1 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฎิญาน เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในวโรกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช โดยมีคระรัฐมนตรี (ครม.) ข้าราชการทั้งฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ และรัฐวิสาหกิจ จำนวน 1,200 คน ร่วมในพิธีแสดงความจงรักภักดี ต่อเบื้องพระยุคลบาทและน้อมนำพระราชปณิธานใส่เกล้าใส่กระหม่อม เป็นหลักธรรมในการปฎิบัติตน และปฎิบัติราชการ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
"คำกล่าวถวายสัตย์"
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวนำการถวายสัตย์ว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้าในนามประธานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน รู้สึกภูมิใจและซาบซึ้งในความงดงามของสถาบันชาติ ที่ทำให้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้มาชุมนุมพร้อมเพรียงกัน ณ ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้
เพื่อสมานใจ ร่วมกันแสดงความกตัญญูกตเวทิตาอันหนักแน่น น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายใต้ฝ่า ละอองธุลีพระบาท พระผู้ทรงสถิตในหทัยราษฎร์ เนื่องในศุภวาระมหามงคลสมัยวันเฉลิม พระชนมพรรษา ที่เวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้
"ขรก.พร้อมใจถวายสัตย์"
การปฏิบัติพระราชกรณียกิจของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เปรียบประดุจเป็นการทำงานราชการ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน 60 ปี ที่ได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์ สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ก็คือการทรงทำราชการ แต่ทว่าราชการของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทนั้น ทั้งหนักและเหนื่อยเป็นล้นพ้น ยิ่งกว่าข้าราชการทั้งหลายทั้งปวงเป็นหลายเท่าทวี คูณ ณ มหามงคลสมัยนี้
ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เชิญชวนข้าราชการทั้งหลาย ตั้งจิตพร้อมน้อมอธิษฐาน ขออานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย และอำนาจศักดิ์สิทธิ์ในสากล ขอให้ดลบันดาลประทานพระพรชัยมงคล ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาล สถิตสถาพรในไอศูรย์สมบัติ เป็นมิ่งขวัญร่มฉัตรปกเศียรคุ้มเกล้า เหล่าพสกนิกรตลอดจิรกาล
"ถวายสัตย์โดยพร้อมเพรียง"
และข้าพระพุทธเจ้าขอนำข้าราชการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ ด้วยวาจาที่เปล่งออกด้วยใจบริสุทธิ์ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน อันถือเป็นศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิอันสง่างามของข้าราชการ และจะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ มีอานุภาพ ศักดิ์สิทธิ์ ขจัดภัยและอุปสรรคบ้านเมือง ให้ผ่านพ้นได้ด้วยดี ดังนี้
ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติเป็นข้าราชการที่ดี ตามรอยพระยุคลบาท จะมุ่งมั่นแน่วแน่ แก้ไขปัญหาของชาติและประชาชน และเสริมสร้างคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดิน โดยยึดมั่นในหลักธรรม และความถูกต้องตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
อสมท จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดี
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน โดย นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร รองประธานกรรมการ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท นำผู้บริหารและพนักงานกล่าวคำปฏิญาณแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ว่าจะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดีตามรอยพระยุคลบาท จะมุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของชาติและประชาชน และเสริมสร้างคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดิน โดยยึดมั่นในหลักธรรมและความถูกต้องตลอดไป
ปลัดกห.ร้องคนไทยทำความดีสร้างความร่มเย็น
พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2549 ที่กระทรวงกลาโหม เช้าวันนี้ (1 ธ.ค.) ว่าปี 2550 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่เป็นปีมหามงคลที่พสกนิกรชาวไทยทุกคนน่าจะประกอบแต่กรรมดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
และปีดังกล่าวเป็นปีที่คนไทยทุกคนจะต้องปลื้มปิติ จึงหวังว่าทุกคนจะนำเอาวาระอันเป็นมหามงคลนี้น้อมใส่เกล้าฯ ไว้ ประกอบคุณความดีเพื่อความสุขร่มเย็นของประเทศไทย และเพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความสบายพระทัยกับเหตุการณ์บ้านเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป
สำหรับกิจกรรมที่กระทรวงกลาโหมจะจัดเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั้น พล.อ.วินัย กล่าวว่า มีการหารือถึงการทำโครงการไถ่ชีวิตโคในช่วง 365 วันข้างหน้า ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังหารือกันระหว่างกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการทหารสูงสุด และเหล่าทัพ
มท.2นำขรก.มหาดไทยปฎิญาณตน
เมื่อเวลา 07.45 น.ที่บริเวณพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะ พระอนุสาวรีย์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องใน "วันดำรงราชานุภาพ" ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ ปีที่ 63 ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย
จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้นำข้าราชการถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังแผ่นดินและเป็นประธานพิธีสงฆ์ในงานวันที่ระลึกคล้ายวันสิ้นพระชนม์ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณตามโครงการนายอำเภอดีเด่นของประชาชน ประจำปี 2549 จำนวน 12 คน แยกออกเป็นนายอำเภอที่มีผลงานดีเด่นระดับภาค ๆ ละ 1 คน รวม 4 คน และระดับเขต ๆ ละ 10 คน รวม 8 คน
ผบช.น.นำถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นตร.ที่ดี
พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำข้าราชการตำรวจในสังกัดกว่า 500 นาย ทำพิธีกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตน ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตน ยืนยันว่า จะปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี เป็นพลังของแผ่นดิน มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาเพื่อประเทศชาติและประชาชน รวมทั้งจะเสริมสร้างประโยชน์ให้แผ่นดิน บนหลักของความถูกต้อง
ตชด.ภาค4จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 1 ธ.ค.49 ที่ห้องประชุมพนมไพร กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 อ.เมือง จ.สงขลา พ.ต.อ.ราเชนทร์ ตุงคะเตชะ รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน รวมทั้งแสดงความจงรักภักดี รวมพลังตั้งสัตยาธิษฐาน ถวายพระพรชัยมงคลและเป็นพลังแผ่นดินให้ยั่งยืนตราบนานเท่านาน ของข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ข้าราชการทุกคน มีจิตสำนึก มีทัศนคติ และพฤติกรรมในการทำงานเป็นข้าราชการที่รักแก่ประชาชน ก่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อประชาชน สังคม และประเทศชาติ โดยอัญเชิญพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่ข้าราชการพลเรือน ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2524 เป็นต้นมา เป็นแนวประพฤติปฏิบัติ และมุ่งมั่นรักษาคุณงามความดีถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงครองแผ่นดินนี้โดยธรรมตลอดมา
พ.ต.อ.ราเชนทร์ ตุงคะเตชะ รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 กล่าวว่า ในช่วงเวลามหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ได้พร้อมใจกันจัดให้มีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เพื่อร่วมแสดงถึงพลังแห่งความสามัคคี ตั้งใจที่จะทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสอันเป็นมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
ทั้งนี้มีการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้า พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า จะประพฤติปฏิบัติเป็นข้าราชการที่ดี ตามรอยพระยุคลบาท จะมุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของชาติและประชาชน และเสริมสร้างคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดิน โดยยึดมั่นในหลักธรรมและความถูกต้องตลอดไป
ทภ.2 จัดเทิดพระเกียรติ5ธันวามหาราช
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ประจำปี 2549 โดยมีกำลังพลหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 และเหล่าข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมพิธีกว่า 200 คน
จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยรองแม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ ได้ร่วมกันปล่อยปลา ปล่อยกบ ลงในบ่อสาธิตภายในศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล และลงนาเกี่ยวข้าวในแปลงนาทดลอง หว่านวันแม่ เกี่ยววันพ่อ เพื่อขยายพันธุ์และสนองแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในศูนย์การเรียนรู้ฯ ประกอบด้วย กิจกรรมตามแนวพระราชดำริ การจัดนิทรรศการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ และการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นต้น ซึ่งนิทรรศการดังกล่าวจะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 5 ธันวาคมนี้
กรมพัฒนาที่ดินจัดเฉลิมครองราชย์60ปี
นายชัยวัฒน์ สิทธิบุศย์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ตลอด 43 ปีแห่งการก่อตั้งกรมพัฒนาที่ดิน ข้าราชการและพนักงานทุกคน ต่างซาบซึ้งที่ได้รับใช้ใต้เบื้องยุคลบาทสนองพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ทำโครงการสำคัญต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงไว้วางพระราชหฤทัยมอบหมายให้กรมฯ เป็นผู้ดำเนินการ เช่น โครงการพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หนองพลับ - กลัดหลวง มาจนถึงโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริพิกุลทองและเขาหินซ้อน
โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม ตลอดจนโครงการแกล้งดิน ที่พระองค์ทรงคิดค้นทฤษฏีการแก้ปัญหาดินเปรี้ยว ให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทางกรมพัฒนาที่ดินจึงได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติครองราชย์ 60 ปี และงานจุดเทียนชัยถวายพระพรขึ้น ระหว่างวันที่ 5-6 ธันวาคม 2549 ณ กรมพัฒนาที่ดิน ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีมหามงคล และแสดงออกถึงความจงรักภักดีของประชาชน ที่มีต่อองค์พระประมุขของประเทศ ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
"กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ"
สำหรับกิจกรรมภายในวันที่ 5 ธ.ค.49 ประกอบด้วยงานแถลงผลงานของกรมพัฒนาที่ดินที่ผ่านมาในปี 2549 และแผนการดำเนินงานในปี 2550 นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ตามรอยพระบาทครองราชย์ 60 ปี ฟื้นฟูปฐพีไทย ไม่มีก้อนดินใดในผืนแผ่นดินนี้ ที่น้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ไปไม่ถึง ซึ่งเป็นการรวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการทรงงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ดินในยุคสมัยต่างๆ รวมทั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ส่วนกิจกรรมในวันที่ 6 ธ.ค.49 จะมีการอภิปรายเรื่องการจัดการและพัฒนาลุ่มน้ำ ในหัวข้อแนวคิดและการปฏิบัติเพื่อลดภัยธรรมชาติ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอภิปราย ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ศูนย์วิจัยป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน
ปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม และภัยแล้ง มีสาเหตุมาจากทั้งธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์ ซึ่งแนวทางหนึ่งที่จะสามารถดำเนินการเพื่อป้องกันปัญหาให้บรรเทาเบาบางลงได้คือ การพัฒนาพื้นที่ทั้งลุ่มน้ำในแบบบูรณาการ โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านป่าไม้ แหล่งน้ำ ที่ดิน และที่สำคัญคือการพัฒนาเครือข่ายของคนที่อยู่อาศัยในแต่ละลุ่มน้ำด้วย