แรมโบ้ไทย..พกธงชาติพร้อม พลีชีพ

แรมโบ้ไทยพร้อม"พลีชีพ" พกธงชาติคลุมศพตัวเอง!


ทหารพรานฉายา "แรมโบ้ไทย" พร้อมพลีชีพ พกธงชาติไว้เตรียมคลุมศพตัวเอง หากพลาดท่าโจร เผยได้แนวคิดจากทหารสหรัฐ ครั้งปฏิบัติหน้าที่ในอิรัก ชี้มีเพื่อนทหารเริ่มเอาอย่างแล้ว

ผมเย็บธงชาติด้วยมือตัวเอง เพราะถ้าเกิดพลาดท่าถูกซุ่มโจมตีจนเสียชีวิตเพื่อนทหารจะได้เอาธงชาติคลุมตัวเพื่อจะได้ดูดี ไม่ต้องใช้ใบไม้หรือหนังสือพิมพ์มาคลุมศพให้ลูกเมียสะเทือนใจ

ถ้อยคำอันแสดงถึงการไม่ยี่หระต่อความตายของ จ.ส.อ.นิเวช ศิริกรรณ์ อายุ 51 ปี เจ้าของฉายา "แรมโบ้ไทย" บ่งบอกถึงความเด็ดเดี่ยว และพร้อมพลีชีพเพื่อชาติอยู่ทุกเมื่อ

ฉายาอันดุดันไม่ได้ตั้งขึ้นมาเท่ๆ เพราะ จ.ส.อ.นิเวช เคยผ่านสมรภูมิมาแล้วอย่างโชกโชน ทั้งแนวรบภูหินร่องกล้า เมื่อปี 2527 และบทบาททหารพัฒนาในประเทศอิรัก เมื่อปี 2547 บ่อยครั้งที่เขาต้องปะทะกับข้าศึกจนแทบจะได้ยินเสียงกระซิบแห่งความตาย กระนั้น เขาก็ยังรอดมาได้ แต่นั่นมันก็ "ไม่แน่" เสมอไป

ด้วยเหตุนี้เมื่อได้กระโจนเข้าสู่สมรภูมิสุดอันตรายอย่างสามจังหวัดชายแดนใต้ จึงทำให้ จ.ส.อ.นิเวช จำต้องพกธงชาติติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะบ่อยครั้งที่เขาเห็นสภาพศพของเพื่อนทหารถูกห่มคลุมด้วยใบไม้หรือหนังสือพิมพ์ก็ทำให้รู้สึกสลดสังเวชใจนิ่งนัก เพราะมันช่างไม่สมศักดิ์ศรีผู้กล้าเอาเสียเลย


จ.ส.อ.นิเวช เคยผ่านประสบการณ์รบมาโชกโชน


จ.ส.อ.นิเวช เล่าถึงที่มาของแนวคิดนี้ว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยผ่านประสบการณ์รบมาโชกโชน โดยเริ่มสมัครเข้ามาเป็นทหารเมื่อปี 2518 และมาสมัครเป็นทหารพรานเมื่อปี 2521 และประจำอยู่ภาคใต้โดยตลอด

กระทั่งเมื่อปี 2547 เขาก็มีโอกาสได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในประเทศอิรักในฐานะทหารช่าง และต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นทหารสหรัฐพกธงชาติติดตัวไว้ตลอดเวลา

"พวกเขาบอกว่าการพกธงชาติติดตัวมีประโยชน์มากมาย นอกจากจะเอาไว้คลุมศพตัวเองแล้ว หากเพื่อนเสียชีวิตก็สามารถใช้ธงชาติคลุมศพให้เพื่อนได้ด้วย เพราะนักรบถือว่าหากมีธงชาติคลุมศพตั้งแต่วินาทีแรกที่ความตายเข้ามาเยือนก็จะเป็นเกียรติประวัติสูงสุดในชีวิต"

แนวคิดดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ จ.ส.อ.นิเวช พกธงชาติติดตัวไว้ตลอดเวลา ยิ่งต้องลงมาปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ก็ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ เพราะถ้าพลาด...ย่อมไม่มีโอกาสแก้ตัว

จ.ส.อ.นิเวช เล่าว่า บ่อยครั้งที่ต้องเห็นภาพการเสียชีวิตของเพื่อนทหารตำรวจซึ่งสร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เช่น เมื่อกลางเดือนก่อนมีตำรวจสองนายถูกซุ่มโจมตีเสียชีวิตที่ จ.ยะลา

แถมยังถูกมีดฟันหน้าเละไปหมดจนชาวบ้านต้องเอากระดาษมาคลุม เพื่อนตำรวจเห็นอย่างนั้นก็สุดทนจึงต้องวิ่งไปหาธงชาติในโรงเรียนมาคลุมให้ ส่วนอีกรายเป็นทหารถูกระเบิดหน้าหายไปซีกหนึ่งก็ถูกคลุมด้วยหนังสือพิมพ์เช่นกัน


ทหารพรานหลายคนเริ่มพกธงชาติไว้ที่เป้พร้อมจะ "พลีชีพ" เพื่อชาติ


อีกเรื่องหนึ่งซึ่งสร้างความสะเทือนใจให้เขาไม่แพ้กันก็คือ เวลาที่ทหารตำรวจถูกยิงตาย ผู้คนมักจะมองว่าเกิดจากความ "ประมาท" แต่จริงๆ แล้วเขากลับมองว่าเป็นเพราะความเสียสละ และมีวินัยมากกว่า

"อย่างเหตุยิงตำรวจตาย 2 ศพที่ จ.ยะลา ถ้าเป็นผมก็ต้องยอมตายเหมือนกัน เพราะเราไม่สามารถยิงตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามได้ในตลาดที่มีประชาชนผู้บริสุทธิ์มากมาย" เขา กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว

ความมุ่งมั่นของเขาฉายชัดในแววตา แต่ที่สะดุดตายิ่งกว่า คือ ชุดทหาร และอุปกรณ์สนามสารพัดชนิด ซึ่งดูจะมีการเตรียมพร้อมมากกว่าทหารคนอื่นๆ อยู่ไม่น้อย

บางคนคิดว่าผมบ้าแต่งกายแปลกกว่าเพื่อนทหาร แต่เขาคงไม่รู้หรอกว่าทหารต้องมีความพร้อมรบในทุกสถานการณ์ อย่างอุปกรณ์ที่ผมพกอยู่มันมีประโยชน์ทุกอย่าง เพราะหากมีการปะทะกันหรือหลงป่าผมสามารถใช้อุปกรณ์ให้เป็นประโยชน์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไฟฉาย เข็มทิศ มีด ปืน เชือก ธง ซึ่งสามารถดำรงชีพอยู่ในป่าได้อย่างสบาย

เขา บอกว่า การแต่งกายพร้อมรบอยู่ตลอดเวลาทำให้ผู้บังคับบัญชาชอบมากถึงขนาดขอถ่ายรูปไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนแนวคิดการพกธงชาติติดตัวไว้ก็เริ่มได้รับความนิยมในหมู่เพื่อนทหารมากขึ้นเรื่อยๆ

"ตอนนี้ทหารพรานหลายคนเริ่มพกธงชาติไว้ที่เป้หลังกันบ้างแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบในหน้าที่ และพร้อมจะพลีชีพเพื่อชาติทุกเวลา" จ.ส.อ.นิเวช กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

ฉายา "แรมโบ้ไทย" ของเขาได้มาจาก พล.ต.มนตรี ภุมรินทร์ ผบ.กองกำลังไทย-อิรัก ซึ่งระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นเขายังรับจ็อบเป็น "ครูสอนมวยไทย" ให้ทหารสหรัฐ โดยได้ค่าจ้างวันละ 5 เหรียญ (ประมาณ 200 บาท) เหตุนี้ฝรั่งจึงพูดล้อๆ ว่าเป็นแรมโบ้ไทย และผู้บังคับบัญชาก็ชอบฉายานี้ด้วย


แม้ทหารพร้อมพลีชีพ...แต่คนไทยคงไม่อยากเห็นความสูญเสียอย่างแน่นอน


"ทหารต่างชาติชอบผมมาก บางคนยอมยกกางเกงทหาร ซึ่งมีราคาสูงถึง 1.5 หมื่นบาทให้ บางคนก็ให้ของที่ระลึกเป็นหมวกหนังอูฐ ซึ่งทำให้ผมภูมิใจมากที่ได้เผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทย"

นอกจากจะรับบทครูมวยไทยแล้ว จ.ส.อ.นิเวช ยังออกแบบหมวกทหารชนิดต่างๆ เช่น หมวกปิดหน้า ซึ่งใช้ในการรบแบบกองโจร และได้รับความนิยมจากทหารต่างชาติไม่น้อย

ขณะที่ พ.ต.ชานนท์ ชุมขวัญ ผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.อ.นิเวช ก็สนับสนุนแนวคิดนี้เช่นกัน โดยมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารมีความฮึกเหิม และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่

"ผมมองว่ามันเป็นการสร้างความอุ่นใจให้แก่ทหาร ส่วนตัว จ.ส.อ.นิเวช ก็เป็นแบบอย่างที่ดีของทหารที่มีความพร้อมรบทุกสถานการณ์ โดยอุปกรณ์ที่เขาพกพาสามารถรบได้ทั้งในและนอกรูปแบบ นอกจากนี้ เขายังเป็นคนจริงจัง กล้าคิด กล้าพูด ทำให้นายทหารชั้นผู้ใหญ่รักเอ็นดูมากถึงขนาดให้เป็นทหารติดตาม เพราะเชื่อมั่นในความเป็นทหารที่ดีของเขา" พ.ต.ชานนท์ กล่าวชมลูกน้อง

พ.ต.ชานนท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทหารทุกคนไม่หวั่นที่จะสละชีพเพื่อชาติ ดังคำขวัญที่ยึดมั่นปฏิญาณไว้ คือ "เดินไปสามก้าวปักธงชาติไว้บนเนินข้าศึกได้...ถึงตายก็ไม่เสียใจในการพลีชีพเพื่อชาติ"

แม้ปรารถนาสูงสุดของชายชาตินักรบ คือ การพลีชีพเพื่อชาติในสนามรบ แต่เชื่อว่าคนไทยทุกคนคงไม่ปรารถนาให้เกิดความสูญเสียเช่นนั้น และต่างมุ่งหวังว่าไฟใต้ที่ปะทุหนักในวันนี้จะมอดดับลงโดยเร็ว




ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์คมชัดลึก



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์