ระบุอนาคต กทม.จะไม่มีฤดูหนาว

"อากาศร้อนเป็นผลจากเอลนิโญ"


เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ศูนย์เครือข่าย งานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่ง ชาติ (วช.) ได้จัดสัมมนาเรื่อง หนึ่งทศวรรษการวิจัยการเปลี่ยนแปลงของโลกในประเทศไทย

โดย ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ START กล่าวว่า การที่คนส่วนใหญ่รู้สึก ได้ว่าในปีนี้อากาศร้อนมาก และไม่หนาวเหมือนปีที่ผ่านมานั้น เป็นผลจากภาวะโลกร้อนที่เริ่มเข้าสู่ปีที่เอลนิโญ ที่จะส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งและร้อน โดยคาดว่าจะยาวนานไปจนถึงปลายปี 2550

"อนาคต กทม.จะไม่หนาวอีกแล้ว"


รศ.ดร.จริยา บุญญวัฒน์ ผู้ประสานงานศูนย์ START กล่าวว่า ขณะนี้มีแนวโน้มค่อนข้างชัดเจนว่าในอนาคตกรุงเทพฯ จะไม่มีฤดูหนาวอีกต่อไป เพราะแม้จะเข้าช่วงหน้าหนาว ซึ่ง ควรจะเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย. แต่ปรากฏว่าใน กทม.

ยังมีอากาศที่ร้อนมาก ซึ่งเรื่องนี้ศูนย์ START เคยศึกษาผลของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและ สิ่งปกคลุมที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

"อุณหภูมิ กทม.สูงกว่าชานเมือง 2 องศา"


มีข้อสรุปว่าการขยายตัวของชุมชนในเขต กทม. เป็นไปอย่างรวดเร็วในช่วง 40 ปี คือระหว่าง พ.ศ. 2499-2540 ทำให้เกิดภาวะ Urban Heat Island หรือโดมความร้อนของเมือง ที่อุณหภูมิในเมืองจะสูงกว่าชานเมือง

โดยจากการวิจัยที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยเคโอ ประเทศญี่ปุ่น เปรียบเทียบกับโตเกียว พบว่า กทม. มีลักษณะคล้ายโตเกียว คือมีอุณหภูมิระดับพื้นดินในเมืองสูงกว่าเขตชนบท จากการวัดด้วยเครื่องมือที่ติดกับบอลลูนที่ระดับความสูง 100 เมตร พบว่าอุณหภูมิเหนือ กทม. สูงกว่าชานเมือง 2 องศาเซลเซียส ในขณะที่โตเกียว มีอุณหภูมิเหนือเมืองสูงกว่าชานเมือง 5 องศาเซลเซียส.



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์