พิสูจน์ หลวงพ่อผล เผา ไม่เผา 3 ธ.ค. ยุติแน่

เปิดโลงพิสูจน์ปาฏิหาริย์ งานศพ"หลวงพ่อผล"วุ่นเผา-ไม่เผา 3 ธ.ค.ได้ข้อยุติ


ดูเหมือนว่าข้อสรุปในการเผา-ไม่เผาศพพระราชนันทาจารย์ หรือ "หลวงพ่อผล" อดีตเจ้าอาวาสวัดเซิงหวาย ยังคงเป็นเรื่องคาใจชาวบ้านที่มีมุมมองแยกออกเป็น 2 ฝ่าย

ฝ่ายแรกเห็นสมควรให้มีการพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อผลไปตามกำหนดการของสำนักพระราชวัง ที่พระครูปลัดแก้ว กิตติสาโร เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ทำเรื่องขอไฟพระราชทานไว้ ซึ่งกำหนดพิธีในวันที่ 26 พ.ย. หากยกเลิกเกรงว่าจะเป็นการมิบังควร

ขณะที่อีกฝ่ายให้เหตุผลว่ายังไม่สมควรเผาศพหลวงพ่อผล เนื่องจากตอนนี้เกิดสิ่งปาฏิหาริย์ขึ้นเพราะสังขารหลวงพ่อไม่เน่าไม่เปื่อยเหมือนคนเสียชีวิตทั่วไป ดังนั้น ก็ควรจะเก็บร่างหลวงพ่อไว้ในโลงแก้วเพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาได้สักการบูชากันต่อไป






เหตุผลทั้ง 2 ฝ่ายจึงบานปลายกลายเป็นศึกแย่งศพตามมา


ความขัดแย้งครั้งนี้เกิดขึ้นตอนสายวันที่ 26 พ.ย. มีชาวบ้านประมาณ 200 คน พากันมาชุมนุมภายในวัดเชตวันธรรมาวาส หรือ "วัดเซิงหวาย" ซอยกรุงเทพฯ-นนทบุรี 21 ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เพื่อคัดค้านการเผาศพหลวงพ่อผล ซึ่งมรณภาพเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2547 ที่ผ่านมา และจะมีวันครบกำหนดพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 26 พ.ย.

เหตุผลที่ชาวบ้านไม่ยอมให้เผาเพราะเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้มีการเปิดโลงพิสูจน์ดูว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เก็บศพหลวงพ่อไว้ ร่างกายของหลวงพ่อผลไม่เน่าเปื่อยจริงอย่างที่ชาวบ้านร่ำลือหรือไม่ หลังเปิดโลงมีชาวบ้านบางกลุ่มอ้างว่าเกิดปาฏิหาริย์สังขารหลวงพ่อผลไม่เปื่อยไม่เน่า จึงต้องการที่จะเก็บสังขารของหลวงพ่อบรรจุใส่โลงแก้วเพื่อเป็นที่สักการบูชา


แต่ทว่าทางวัดก็ยืนยันที่จะฌาปนกิจตามกำหนดการเดิมที่ขอพระราชทานเพลิงศพจากสำนักพระราชวังไว้ เลยทำให้มีชาวบ้านมาชุมนุมกันเพื่อคัดค้านการเผาศพหลวงพ่อผล


พิธีพระราชทานเพลิงศพจึงเกิดเหตุอลหม่านขึ้น


ฝ่ายวัดให้เหตุผลที่น่าฟัง ว่า การเลื่อนพิธีพระราชเพลิงศพหลวงพ่อผลเป็นเรื่องใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้ทางวัดในรูปของคณะกรรมการ ได้ทำเรื่องขอไฟพระราชทานกับทางสำนักพระราชวังไปเรียบร้อยแล้ว

มีกำหนดการออกมาชัดเจนแล้วด้วย ว่าจะมีการพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 26 พ.ย. บรรจุอัฐิในวันที่ 27 พ.ย. และที่สำคัญ ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่มีลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อผลขอร้องให้เก็บศพหลวงพ่อไว้ 2 ปีเพื่อสักการบูชา ทางวัดก็ทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่พอจะเผาปรากฏว่ามีชาวบ้านบางกลุ่มคัดค้านโดยอ้างว่าเกิดเหตุปาฏิหาริย์ร่างหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย จึงขอให้ยกเลิกพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเลยเพื่อเก็บสังขารหลวงพ่อเอาไว้

ขณะที่ฝ่ายชาวบ้านที่ไม่ยินยอมให้เผาก็ยังคงอ้างเหตุผลเรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อต่างๆ นานา พร้อมหาทางออกให้กับทางวัด ว่าก่อนหน้านี้ได้ส่งตัวแทนไปติดต่อกับกองพิธี สำนักพระราชวังแล้ว ได้รับคำตอบว่าสามารถชะลอหรือยกเลิกการพระราชทานเพลิงศพได้ เพียงแต่ต้องให้พระครูปลัดแก้วเป็นผู้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปถึงสำนักพระราชวัง ทุกอย่างก็เป็นอันจบ แต่ติดตรงที่พระครูปลัดแก้วยังยืนกรานจะเผาศพหลวงพ่อผลตามกำหนดการเดิมที่ตั้งไว้ เลยทำให้เหตุการณ์ตึงเครียดขึ้นมา



ร้อนถึงตำรวจต้องยกกำลังมาห้ามทัพเอาไว้


การเผชิญหน้าระหว่างชาวบ้านกับทางวัดเริ่มเขม็งเกลียวขึ้นในเย็นวันนั้น จนพ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ สุมิตนันท์ ผกก.สน.เตาปูน ต้องขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ปราบจลาจล บก.น.2 หลายสิบนายมาตรึงกำลังทั่ววัด เพราะเกรงจะเกิดเหตุบานปลายตามมา

หลังจากที่พิธีพระราชทานเพลิงศพดำเนินมาถึงขั้นตอนการทอดผ้าบังสุกุล โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง ตามด้วยพระชั้นผู้ใหญ่และพระภิกษุ สามเณรกว่าร้อยรูป ขึ้นวางดอกไม้จันทน์บนเมรุชั่วคราวที่ตั้งในวัดเพื่อเตรียมเผาจริงตอน 3 ทุ่ม

ปรากฏว่าห้วงเวลาเดียวกันนั้น ได้มีกลุ่มคัดค้านกว่า 200 คน ฮือขึ้นไปบนเมรุที่ตั้งศพหลวงพ่อ เพื่อแย่งศพไม่ให้มีการเผา ทำให้พระภิกษุและประชาชนที่มาร่วมงานแตกตื่นหนีกันอลหม่านจนเกิดความวุ่นวายขึ้นพักใหญ่

เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล จึงได้ผลักดันกลุ่มชาวบ้านไว้ เกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร จากนั้นชาวบ้านได้มารวมกลุ่มคัดค้านอยู่หน้าปะรำพิธีจนทางวัดไม่สามารถดำเนินการเผาศพหลวงพ่อผลได้

เป็นอันว่าการพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อผลในคืนวันนั้นต้องยุติลงไปโดยปริยาย

ความวุ่นวายที่เกิดในวัดเซิงหวาย ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติจนกระทั่งพ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ต้องออกมาเจรจากับชาวบ้านว่า ตนเองได้ติดต่อกับทางสำนักพระราชวังแล้วเพื่อขอยับยั้งการเผาศพ ซึ่งทางสำนักพระราชวังก็ตอบตกลงว่า ถ้าอีก 7 วัน คือวันอาทิตย์ที่ 3 ธ.ค. เวลา 09.00 น. จะทำการเปิดหีบศพหลวงพ่ออีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับมีพยานคือชาวบ้าน

ถ้าศพหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อยจริงๆ ก็จะอัญเชิญไฟพระราชทานเพลิงศพกลับและยินยอมให้นำศพหลวงพ่อไว้ในโลงแก้วตามเดิม แต่ถ้าเปิดโลงแล้วศพหลวงพ่อเน่าชาวบ้านรับรู้พร้อมกัน ก็จะทำพิธีพระราชทานเพลิงศพทันที

ภายหลังจากชาวบ้านได้รับทราบคำตอบดังกล่าว ต่างพากันโห่ร้องแสดงความยินดี พร้อมกับพากันขึ้นไปบนเมรุชั่วคราว ยกโลงศพหลวงพ่อลงจากเมรุไปไว้ที่ศาลาเหมือนเดิมก่อนที่จะสลายตัวแยกย้ายกันไปรอผลในวันที่ 3 ธ.ค. ที่จะถึงนี้


ทุกคนเฝ้ารอวันนั้นอย่างใจจดใจจ่อ!?!


บรรยากาศภายในวัดเซิงหวายระหว่างรอวันตัดสินปัญหา ตลอดเวลายังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมากราบไหว้ศพหลวงพ่อผล

โดยฝ่ายชาวบ้านที่คัดค้าน ทำการการติดประกาศข้อความว่า "หลวงพ่อผล มรณภาพด้วยโรคหัวใจตีบ ที่โรงพยาบาลบางโพ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2547 เวลา 20.10 น. อายุ 93 ปี 9 เดือน 9 วัน" รวมถึงติดแสดงภาพถ่ายของหลวงพ่อผลว่าสังขาร ไม่เน่าเปื่อย พร้อมขึ้นป้ายข้อความที่เขียนโดยชาวบ้านว่า "ไม่ต้องการให้เผาศพหลวงพ่อผล" ติดไว้หรา

ส่วนทางวัดก็เดินหน้าตามจุดยืนเดิม เตรียมกางเต็นท์และเตรียมเก้าอี้เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อผลในวันอาทิตย์ที่ 3 ธ.ค. ที่จะถึงนี้เช่นกัน ต่างฝ่ายต่างทำตามหลักการที่วางไว้

เผา-ไม่เผา 3 ธันวาคมนี้รู้กัน!??

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์