คมชัดลึก : ฮือฮาคิวจองกฐินพระราชทานวัดปากน้ำยาวเป็นหางว่าวถึงปี พ.ศ.2950 ต้องจองล่วงหน้าถึง 397 ปี ผช.เจ้าอาวาสเผย ประธานปีนี้ต้องจองล่วงหน้าถึง 36 ปี เตรียมนำปัจจัยที่ได้สร้าง “พระมหาเจดีย์รัชมงคล” ขณะที่กลุ่มพุทธฯ ร้อง วธ.ให้ชาวพุทธหยุดถวายเงินพระ ชี้ผิดพระวินัยเป็นบาป ผอ.พศ.ยอมรับในพระวินัยมีจริง แต่ขึ้นอยู่กับเจตนา สำหรับการดำเนินการขอพระราชทานผ้าพระกฐินจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาทอดถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษานั้น ได้เริ่มดำเนินการมาหลังจากพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำมรณภาพไป 2 ปี คือตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 จนถึงปัจจุบันก็เป็นปีที่ 49 แล้ว ด้าน น.ส.ตรีธา เนียมขำ นายกสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ กล่าวว่า ในปีนี้นอกจาก น.ส.ชูชีพ กาญจนวัฒน์ วันเดียวกัน กระทรวงวัฒนธรรมแจ้งว่า ได้มีกลุ่มพุทธศาสนิกชนยื่นแผ่นพับรณรงค์ต่อนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม ทั้งนี้ แผ่นพับรณรงค์ได้ระบุโทษของการทำผิดนิสสัคคิยปาจิตตีย์ ต้องตกโรรุวนรก 1 ชั่วอายุ คือ 4,000 ปี ซึ่งพุทธศาสนิกชนที่ทำผิดกับพระเพราะถวายสิ่งของที่ผิดพระวินัยก็ต้องโทษเหมือนกับพระแต่ได้รับโทษเบากว่า และท้ายเอกสารยังได้ระบุที่มาของเอกสารว่ามาจากสำนักสงฆ์ป่าสามแยก บ้านห้วยยางทอง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ยอมรับว่า คำสอน และพระธรรมวินัยของพระพุทธองค์ระบุไว้ว่า
จากการตรวจสอบรายนามพุทธศาสนิกชนที่มาจองเป็นประธานพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานที่วัดปากน้ำ พบว่ามีผู้ที่มีจิตศรัทธามาจองเป็นประธานไปจนถึงปี พ.ศ.2950 กล่าวคือ มีการจองเป็นประธานล่วงหน้าไปถึง 397 ปี สำหรับประธานในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2553 นี้ คือ น.ส.ชูชีพ กาญจนวัฒน์ ซึ่งได้จองล่วงหน้านานถึง 36 ปี และได้มีพิธีในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานไปแล้วในวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นประธานในพิธี ซึ่งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ระบุว่า ทุนทรัพย์ที่ได้จะใช้ในการสร้างพระมหาเจดีย์มหารัชมงคลต่อไป
ที่ได้เป็นประธานในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน หลังจากจองล่วงหน้ามา 36 ปีแล้ว ยังมีผู้ที่ประสงค์จะเป็นประธานร่วมอีกจำนวน 1,082 ราย แยกเป็นประธานตลอดชีพจำนวน 592 ราย ประธานเฉพาะปีจำนวน 490 ราย และกรรมการจำนวน 1,201 ราย
เกี่ยวกับขอให้หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา หยุดทำบาปให้แก่ตนเอง หยุดถวายทอง เงินแด่พระภิกษุและสามเณร ซึ่งในเอกสารรณรงค์ได้ระบุถึงการถวายเงิน ทองแด่พระภิกษุ สามเณรว่าผิดพระบัญญัติ โดยมีการอ้างอิงจากพระไตรปิฎกเล่ม 3 หน้า 940 เล่มสีน้ำเงิน และเล่ม 3 หน้า 887 เล่มสีแดง ถึงพระบัญญัติที่พระพุทธองค์ได้ระบุไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงยกสิขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ อนึ่งภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่งทอง-เงิน หรือยินดีทอง-เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ก็ดี เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ ต้องอาบัตินิสสัคคีย์ ต้องสละสิ่งของนั้นออกไป จึงจะพ้นโทษ
ให้พระภิกษุละเว้นจากลาภ ชื่อเสียง เงิน ทอง จริง แต่ขึ้นอยู่กับเจตนาด้วยว่า พระสงฆ์ยินดีในเงินทองนั้นหรือไม่ แล้วนำไปใช้อะไร ซึ่งตามหลักความเป็นจริงแล้วสมมติว่า หากวัดชำรุดแล้วพระสงฆ์ไม่รับเงินบริจาคจากประชาชน จะเอาเงินที่ไหนมาบูรณปฏิสังข์รวมทั้งจะพัฒนาพระพุทธศาสนา ซึ่งจะต้องมองเจตนาว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าหากพระรูปนั้น โลภ รับเงินบริจาคมาเพื่อใช้ในเรื่องส่วนตัว ก็ถือว่าผิด
ฮือฮาคิวจองกฐินวัดปากน้ำนานถึง397ปี
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พระครูพิทักษ์วรานุรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เปิดเผยว่า
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!