แบนเหล้าวุ่น ขอกฤษฎีกาทวน

"เพิ่งได้รับหนังสือแจ้งผล"


คำสั่งห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประกาศให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ธ.ค. นี้ ส่อเค้าความวุ่นวาย เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาแล้วว่า อย.ไม่มีอำนาจในการออกประกาศดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยกรณีที่ อย.ส่งเรื่องการบังคับใช้คำสั่งห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า เพิ่งได้รับหนังสือแจ้งผลการตีความจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลงนามโดยคุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้

ระบุว่า สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไม่มีอำนาจที่จะมอบอำนาจให้อย.ไปดำเนินการออกประกาศ คำสั่งห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังกล่าว ซึ่ง สธ.ในฐานะหน่วยงานของรัฐ คงต้องปฏิบัติตาม แต่ในทางปฏิบัติ อาจจะต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมควบคุมโรค อย. และนิติกร เพื่อพิจารณาในเรื่องของกฎหมายอีกครั้ง หากมีเหตุผลเพียงพอก็อาจต้องยื่นเรื่องขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทบทวนการตีความดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขศึกษารายละเอียดในคำสั่งวินิจฉัยอีกครั้ง

"ให้แนวทางปฏิบัติไปในทางเดียวกัน"


รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของการตีความทางกฎหมายที่ต่างกัน เพราะจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ ในขั้นตอนของการจัดทำรายละเอียดของคำสั่งห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของ อย. มีตัวแทนจากทั้ง อย. คณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายของ สคบ. ร่วมกันพิจารณาทุกขั้นตอนอย่างครบถ้วนแล้ว และฝ่ายกฎหมายของ สคบ.ซึ่งเป็นผู้ดูแล พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ฉบับแก้ไขปี 2541

ยืนยันว่าสามารถมอบอำนาจให้ทาง อย. ไปดำเนินการออกประกาศคำสั่งได้ อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงนี้จะยังไม่มีความชัดเจน ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ แต่ นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข ได้มีนโยบายชัดเจนที่จะเดินหน้า โดยเฉพาะการเรียกประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศในวันที่ 27 พ.ย. นี้ ยังคงมีการประชุมเหมือนเดิมไม่มีการยกเลิก เพื่อให้ สสจ.ทั่วประเทศรับทราบถึงแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

"เริ่มบังคับใช้ 3 ธ.ค.49"


นอกจากนี้ นพ.ณรงค์ยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เตรียมเสนอต่อที่ประชุม ครม.ในวันที่ 28 พ.ย. นี้ ปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. 2547 โดยตัดบทบัญญัติที่ใช้บังคับ สำหรับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ออก

เพื่อให้คำสั่งห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ธ.ค. 2549 สามารถมีผลบังคับได้ ว่าถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง หาก ครม.มีมติเห็นชอบการเสนอปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าว ในขณะที่ประกาศคำสั่งของ อย.ยังไม่ มีผลบังคับใช้ในทางกฎหมาย จะถือเป็นช่วงสุญญากาศที่จะไม่สามารถคุมอะไรได้เลย

"ตอนนี้ยังขัดกับกฎกระทรวงอยู่"


สำหรับข้อเสนอของ สคบ.ดังกล่าวนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกัน นายรองพล เจริญพันธุ์ เลขาธิการ คณะรัฐมนตรี ได้ทำบันทึกถึงนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยเรื่องการแก้ไขร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ..... เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 28 พ.ย. นี้ โดยรายละเอียดของการแก้ไขร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ระบุว่า สคบ.เสนอว่า โดยที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะจำกัดและควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ในทุกสื่อและ

อย. ได้ออกคำสั่งห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แล้ว แต่ปัจจุบันกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ฯ ยังมีผลบังคับใช้อยู่ ซึ่งสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวไม่สอดคล้องกับนโยบายจำกัดและควบคุมโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกสื่อ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายตามคำสั่งของ อย.เป็นไปด้วยความสอดคล้องในเชิงบริหาร จึงเสนอให้ปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าว โดยตัดบทบัญญัติที่ใช้บังคับสำหรับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ออก เพื่อให้คำสั่งห้ามการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ของ อย. ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ธ.ค. 2549 สามารถมีผลบังคับได้


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์