ชดเชยงวดแรก 71ราย-390ล้าน

"เตรียมจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เดือดร้อน ปัญหามลภาวะทางเสียงสนามบินสุวรรณภูมิ"


ความคืบหน้ากรณี ครม.มีมติให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) แก้ปัญหามลพิษทางเสียง จากสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เดือดร้อนจากปัญหาเสียงเครื่องบินขึ้นลงไปแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายสมชัย สวัสดิผล ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง ทอท.ได้ตั้งคณะกรรมการกำกับการเจรจาค่าชดเชยเสียหายให้กับผู้ได้รับความเดือดร้อนทางเสียงจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมลงไปพูดคุยเจรจากับชาวบ้าน 71 ราย

ที่ได้รับผลกระทบจากเสียง และ ทอท.ต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นกลุ่มแรกจำนวน 390 ล้านบาท โดยคาดว่าอย่างช้าสัปดาห์หน้า จึงจะเริ่มออกไปพูดคุยเป็นรายครัวเรือนได้ ส่วนที่มีการประเมินวงเงินค่าชดเชยสูงถึง 7,000 ล้านบาท จากจำนวนบ้านเรือนที่จะได้รับผลกระทบเพิ่มเติม จากที่ประเมินเอาไว้เบื้องต้นนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามาจากไหน แต่คณะกรรมการกำกับฯ คงดูข้อมูลและสำรวจผู้เดือดร้อนที่แท้จริงต่อไป

"แจงยังไม่มีทางออกที่ชัดเจน"


ด้าน ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า แม้ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 21 พ.ย. จะให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม และ ทส.นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาผลกระทบจากเสียงสนามบินสุวรรณภูมิแล้วก็ตาม แต่ยังไม่มีการออกมติที่ชัดเจน ล่าสุดนายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รมว.ทส. และ รมช. กระทรวงคมนาคม เข้าร่วมประชุมกับผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง

เพื่อจัดทำรายละเอียดการแก้ไขปัญหารวม 8 ข้อ คือ 1. ให้ ทอท.ใช้มาตรการทางเทคนิคการบินขึ้นและลงตามที่ คพ.นำเสนอให้ปรับแก้เพื่อลดมลพิษทางเสียง 2. ให้ ทอท.เจรจาซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือจ่ายค่าชดเชยเพื่อปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางเสียงจำนวน 71 ราย และเจรจากับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การบินที่เกิดขึ้นจริง เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2549 (เที่ยวบินสูงสุด 46 เที่ยว/ชั่วโมง) และให้จ่ายค่าชดเชยบ้านเรือนที่สร้างตั้งแต่ปี 2544-2549 ส่วนเกณฑ์ การจ่ายค่าชดเชยนั้นขึ้นอยู่กับ ทอท.ว่าจะตั้งราคาค่าชดเชยออกมาอย่างไร และคงต้องให้ชาวบ้านมีทางเลือก

"จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยเร่งด่วน"


3. ทอท.และ ทส.จะร่วมกันประเมินกรอบบ้านเรือนที่อาจได้รับผลกระทบจากการบินที่จะมีมากถึง 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ตามที่ ทอท.ประเมินว่าจะใช้เต็มพื้นที่ในปี 2555 ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อหามาตรการลดผลกระทบไปพร้อมกัน 4. ทอท.ต้องรับผิดชอบดูแลพื้นที่ที่มีการซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปแล้ว ไม่ให้มีการย้อนกลับเข้ามาอยู่ใหม่ และไม่ให้มีผู้บุกรุกเข้าไปใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต 5. ให้ ทส.และ ทอท.ออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อไม่ให้มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากมลพิษทางเสียงจากสนามบินสุวรรณภูมิ

ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป 6. เนื่องจากสนามบินกำลังเตรียมขยายรันเวย์เพิ่มอีก 2 แห่ง จึงให้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยเร่งด่วน 7. ให้ ควบคุมมลพิษจากเครื่องบิน อาทิ ไอเสียจากน้ำมัน และก๊าซพิษอื่นๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบกับแหล่งน้ำ และปนเปื้อนน้ำฝน โดย คพ.จะลงไปเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจสอบหาสารเคมีต่อไป และ 8. เร่งรัดติดตั้งสถานีตรวจวัดเสียง 13 จุด และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้จะมีการนำผลสรุปเสนอต่อที่ประชุม ครม.อีกครั้ง และเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในบ่ายวันที่ 23 พ.ย.นี้.


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์