"กรณีร้านต้มยำกุ้งในมาเลเซีย"
ปัญหาไฟใต้ยากยุติ ภายหลัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า กลุ่มโจรใต้ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากเครือข่ายร้านอาหาร ต้มยำกุ้ง ของชาวไทยมุสลิมในมาเลเซีย สร้างความไม่พอใจให้แนวร่วมเครือข่ายอย่างมากนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวยืนยันถึงกรณีดังกล่าวว่า การปฏิสัมพันธ์ในระดับผู้นำของไทยและมาเลเซียยังคงดีมาก ไทยมีความมั่นใจมาเลเซียที่จะให้ความร่วมมือกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทย เรื่องนี้มีการหารือระหว่างผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายและเข้าใจกันดี ดังนั้นกรณีนี้จึงต้องดูในสิ่งที่นายกฯพูดรวมทั้งหมด คำพูด ดังกล่าวไม่มีเจตนาโจมตีหรือให้ร้ายใคร และช่วงท้ายยังพูดชัดว่าที่มีโอกาสมาทำงานในระยะหลัง คิดว่าไม่มีแรงหนุนจากต่างชาติ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งท่าทีของไทยเกี่ยวกับกรณีที่เกี่ยวข้อง ให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์แล้ว
หน่วยข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า ร้านอาหารต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย ส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีจำนวนนับร้อยๆร้าน ผู้ประกอบการทุกร้านจะมีฐานะดี สามารถกลับมาปลูกบ้านให้ตนเองและพ่อแม่อย่างใหญ่โต จากการติดตามความเคลื่อน ไหวของร้านต้มยำกุ้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันพบว่า ร้านต้มยำกุ้งจะถูกกลุ่มที่มีอิทธิพลในประเทศมาเลเซีย ที่มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบเข้ามาเรียกเก็บค่าคุ้มครอง หรืออ้างค่าภาษีประกอบการเดือนละ 200 ริงกิต หรือประมาณ 2,000 บาท โดยเงินที่เก็บได้ก็จะนำไปสนับสนุนให้แก่แกนนำหลักที่กบดานในมาเลเซีย