เชื้อดื้อยาพันธุ์ใหม่พบรายแรกในไทย หมอชี้ยาปฏิชีวนะอย่ากินพร่ำเพรื่อ

ศิริราชพบผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาสายพันธุ์ใหม่ในชุมชนเป็นรายแรกของประเทศ เผยอาการเบื้องต้นเป็นฝีหนองตามร่างกาย เตือนหาก 2-3 วันไม่หายควรแพทย์ด่วน แนะหลีกเลี่ยง-สัมผัสผู้ป่วยแผลฝีหนอง คาดเหตุติดเชื้ออาจมาจากนิสัยกินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ

หลังหลายฝ่ายมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการหาวิธีป้องกันเชื้อแบคทีเรียดื้อยาที่พบในโรงพยาบาล แต่ปัจจุบันได้เกิดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาสายพันธุ์ใหม่ที่มาจากชุมชน ซึ่งอาการทั่วไปของผู้ติดเชื้อดื้อยาชนิดนี้จะเป็นแผลฝีหนองตามร่างกาย โดยในประเทศสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเชื้อดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่ล่าสุดได้พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อดื้อยาที่มาจากชุมชนเป็นรายแรกของประเทศไทยแล้ว

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 21 พฤศจิกายน ที่โรงพยาบาลศิริราช ศ.น.พ.พิเศษพงศ์ ปัทมะสุคนธ์ กุมารแพทย์ สาขาโรคติดเชื้อ จากมหาวิทยาลัยเนวาดา สหรัฐอเมริกา กล่าวบรรยายเรื่อง เชื้อโรค MRSA...ประเด็นร้อนในอเมริกา ว่า เอ็มอาร์เอสเอ (Methcilin Resistant Staphylococcus) เป็นเชื้อแบคทีเรียดื้อยาที่พบในโรงพยาบาล ในประเทศสหรัฐพบผู้ป่วยจำนวนมาก แต่เชื้อชนิดใหม่ที่พบเป็นเชื้อดื้อยาที่มาจากชุมชน เรียกว่า CAMRSA โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาชนิดนี้จะเป็นฝีหนอง หรือแผลอักเสบบริเวณผิวหนัง

อย่างไรก็ตาม จากเดิมกลุ่มเสี่ยงที่ติดโรคเชื้อดื้อยาจะเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในโรงพยาบาล แต่เชื้อชนิดใหม่ที่พบเกิดขึ้นในกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยอยู่ในชุมชนในสหรัฐ โดยเฉพาะคนที่อยู่กันเป็นกลุ่ม เช่น เด็ก นักโทษในคุก นักกีฬา ทหารในค่าย หรืออาชีพที่ต้องติดต่อคน เช่น สปา ตำรวจ แพทย์ พยาบาล ทั้งนี้ได้ทราบจากโรงพยาบาลศิริราชว่า ประเทศไทยเจอผู้ป่วยที่ติดเชื้อดื้อยาที่มาจากชุมชนเป็นรายแรกแล้ว

"เชื้อแบคทีเรียดื้อยาชนิดนี้จะอยู่ที่จมูกและก้น แต่บางคนอาจไม่มีอาการ ในคนที่เป็นปอดบวมเสียชีวิต ติดเชื้อในกระแสเลือดอาจเกิดจากเชื้อชนิดนี้ได้ เพียงแต่ไม่มีฝีหนองที่ผิวหนังทำให้วินิจฉัยยาก หากไม่ตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดก็จะไม่พบ ส่วนการรักษาคือ ต้องเปลี่ยนยาตัวใหม่ที่แรงขึ้น ซึ่งปัจจุบันพบว่าราคายาตกประมาณ 1,600 บาทต่อวัน ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการล้างมือ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วยที่มีแผลเป็นฝีหนองด้วยมือเปล่า" ศ.น.พ.พิเศษพงศ์ กล่าว

ด้าน ผศ.น.พ.ชาญวิทย์ ตรีพุทธรัตน์ ภาควิชาจุลชีวะวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ผู้ป่วยรายแรกของไทยที่ติดเชื้อดื้อยามาจากชุมชน เป็นชายอายุ 33 ปี ซึ่งเป็นฝีหนองที่บริเวณเท้า ก่อนหน้านี้ผู้ติดเชื้อเป็นคนไข้ใน รพ.จิตเวช แห่งหนึ่ง

แต่ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ตากสิน และ รพ.ตากสินเก็บตัวอย่างส่งมาตรวจที่โรงพยาบาลศิริราชพบว่าเป็นสายพันธุ์ดื้อยาที่มาจากชุมชน โดยเป็นเชื้อสายพันธุ์ใหม่คนละชนิดกับที่พบในอเมริกา แต่เชื้อที่ตรวจพบในประเทศไทยเป็นเชื้อดื้อยาที่มาจากชุมชนมีความรุนแรงน้อยกว่า

ผศ.น.พ.ชาญวิทย์ กล่าวต่อว่า เชื้อแบคทีเรียสเตปฟิโลคอกคัส เอเรียส มีอยู่ทั่วไป มีหลายสายพันธุ์ และไม่ดื้อยา แต่การใช้ยาปฏิชีวนะต้านจุลชีพมากๆ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการดื้อยาเกิดขึ้นในชุมชน นอกจากนี้การที่คนไข้ไม่ยอมรับประทานยาจนหมดตามแพทย์สั่งจึงทำให้เชื้อโรคเกิดการดื้อยา ดังนั้นหากคนไข้มีฝีหนองบวมแดง 2-3 วันไม่หาย ควรไปพบแพทย์

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก