นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบมาตรการรองรับผลผลิตไข่ไก่ล้นตลาด โดยให้รณรงค์เพิ่มการบริโภคไข่ไก่ และขอความร่วมมือจากหน่วยราชการ ทั้งกรมราชทัณฑ์รับซื้อไข่ไก่ 20 ล้านฟองต่อเดือนในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 53 และให้กระทรวงกลาโหม โรงพยาบาล รับซื้อไข่ไก่เพิ่มขึ้น ให้กระทรวงศึกษาธิการทำโครงการไข่ไก่โรงเรียน และกระทรวงสาธารณสุข ทำโครงการรณรงค์เรื่องคุณประโยชน์โภชนาการของไข่ไก่ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯรายงานว่า ก่อนหน้านี้สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ และสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไก่ไข่
ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรฯ โดยรายงานระบุว่าในเทศกาลกินเจและช่วงที่ปิดภาคเรียนที่ตรงกันในเดือน ต.ค.นี้ จะมีไข่ไก่ล้นตลาดออกมาประมาณ 50 ล้านฟอง ส่งผลให้ผู้เลี้ยงขายไข่ไก่ไม่สามารถเลี้ยงได้และเกิดปัญหาขาดทุน
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในส่วนของมาตรการชะลอการส่งออกไข่ไก่นั้น ซึ่งถือเป็นมาตรการระยะสั้น
รวมถึงมาตรการระยะยาวที่จะร่วมรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคไข่ไก่ ด้วยการให้คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไข่ไก่และผลิตภัณฑ์ไข่ หรือเอ็กบอร์ด จัดตั้งคณะทำงานรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคไข่ไก่ ตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรฯ นั้น ครม.ยังไมได้มีการเห็นชอบในเรื่อง ดังกล่าวแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันในระหว่างการหารือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความพยายามที่จะล้มมติ ครม.ที่ผ่านมา
ในเรื่องของการเปิดเสรีนำเข้าพันธุ์แม่ไก่ และพยายามให้ไข่ไก่มีราคาแพงอีกครั้งหนึ่งให้ได้ ที่สำคัญสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ไม่มีตัวเลขที่ชี้ชัดเจน จึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ ศึกษาแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาว เพื่อไม่ให้มีปัญหาไข่ไก่ราคาแพงและปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดเกิดขึ้นอีก
“ในช่วงเทศกาลกินเจและปิดภาคเรียนทุกปีจะเกิดปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดมาตลอด ส่งผลกระทบมากต่อผู้เลี้ยงที่เกิดปัญหาดังกล่าวทุกปี ทำให้สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ขอความร่วมมือไปยังภาครัฐเข้ามาช่วยดูแลและออกมาตรการมาแก้ปัญหา”.