ขสมก.แพ้คดีปล่อยมลพิษ ทำลายสุขภาพคนกทม.

นายศรีสุวรรณ จรรยา รองเลขาธิการมูลนิธิป้องกันควันพิษและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม กล่าววานนี้ (21 พ.ย.) ว่า หลังจากที่มูลนิธิฯ ร่วมกับภาคประชาชน ได้ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เมื่อปลายปี 2548 ฟ้องร้ององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นจำเลยที่ 1 และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นจำเลยที่ 2 ในฐานะที่ทั้ง 2 หน่วยงานนี้

มีหน้าที่ดูแลควบคุมและแก้ไขปัญหามลพิษจากยานพาหนะ แต่ปรากฏว่า ทั้ง 2 หน่วยงานกลับปล่อยให้รถเมล์ ขสมก. และรถร่วมบริการ ที่รับสัมปทานจาก ขสมก. ที่เสื่อมคุณภาพออกมาวิ่งตามท้องถนน และปล่อยมลพิษจนส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนนั้น ล่าสุด เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางศาลปกครองกลางได้พิพากษาแล้วว่า ขสมก.มีความผิดจริง ส่วน คพ. ศาลยกฟ้อง

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีปัญหามลพิษจากยานพาหนะถือว่าเป็นเรื่องที่คน กทม. และปริมณฑล ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากควันพิษและฝุ่นควันจากรถร่วมบริการ และรถ ขสมก. ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนได้ ดังนั้น การตัดสินของศาลปกครอง ให้มูลนิธิฯ ได้รับชัยชนะขั้นต้น ทุกคนที่ร่วมกันทำงานนี้มีกำลังใจมากขึ้น เพราะมองเห็นทิศทางการต่อสู้ที่จะทำให้มลพิษจากรถเมล์ที่ไม่ได้มาตรฐานหมดไป

ด้าน ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา รองอธิบดี คพ. กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลปกครองครั้งนี้ ทำให้ ขสมก. ต้องดำเนินการตรวจสอบมลพิษจากรถยนต์ทั้งในส่วนของรถของ ขสมก. และรถร่วมบริการ โดยต้องส่งผลการตรวจสอบให้กับทางศาลทุก 3 เดือน และ คพ.จะเดินหน้าเพื่อควบคุมให้ ขสมก. ให้ความสำคัญต่อการบำรุงดูแลรักษารถยนต์มากขึ้น โดยจะมีมาตรการเชิงรุกแก้ปัญหา แต่ยอมรับว่าบางเรื่อง คพ. ก็ไม่มีอำนาจเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ถือเป็นกรณีแรกที่ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยเรื่องเกี่ยวกับปัญหาการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ