นายเสริมเกียรติ ทัศนสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2554 กยศ.ได้รับจัดสรรงบประมาณ 18,000 ล้านบาท ลดลง 3,000 ล้านบาท จากที่เสนอขอไป 21,000 ล้านบาท ส่งผลให้ต้องนำเงินของ กยศ.มาสมทบเพิ่ม 21,000 ล้านบาท เพื่อให้ได้วงเงิน 39,000 ล้านบาท มาปล่อยกู้แก่ผู้กู้รายใหม่และรายเก่า รวมประมาณ 930,000 คน โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้จะประชุมคณะกรรมการบริหาร กยศ.เพื่อกำหนดนโยบายว่า จะจัดสรรเงินให้แก่นักศึกษากลุ่มใดบ้าง เบื้องต้นคิดกันว่า
ในระดับอุดมศึกษาจะจัดสรรให้แก่กลุ่มสาขาวิชาที่มีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน เรียนจบแล้วมีงานทำแน่นอน
ส่วนระดับต่ำกว่าปริญญาตรี จะเน้นให้กับกลุ่มผู้เรียนสายอาชีพหรืออาชีวศึกษามากกว่าสายสามัญศึกษา
นายเสริมเกียรติกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยเข้ามาร่วมจัดการเงิน กยศ. เพื่อเพิ่มช่องทางให้นักเรียน นักศึกษามุสลิมเข้าถึงการศึกษามากยิ่งขึ้นว่า ในปีการศึกษาที่ผ่านมายังมีผู้กู้ผ่านธนาคารอิสลามฯจำนวนน้อย อาจเพราะนักเรียน นักศึกษายังไม่ทราบ ดังนั้น ทางธนาคารจะต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มสาขาธนาคารด้วย เพื่ออำนวยความสะดวก
ส่วนความคืบหน้าการแก้ พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เพื่อหลอมรวมกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เข้ากับ กยศ.นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) พิจารณา โดยสาระสำคัญมีการแก้ไขวัตถุประสงค์การปล่อยกู้ กยศ. จากเดิมให้กู้เฉพาะผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทั้งค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ จะแก้ไขโดยเพิ่มกลุ่มผู้กู้ที่ไม่จำกัดรายได้ครอบครัวด้วย แต่กลุ่มนี้จะกู้ได้เฉพาะค่าเล่าเรียนเท่านั้น คาดว่า กฎหมายฉบับนี้จะผ่านการพิจารณาของรัฐสภาและมีผลบังคับใช้ในปี 2554 แต่คงไม่ทันใช้ปีการศึกษา 2554
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
