ไหม้โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์วอด30ล้านบาท

เพลิงไหม้โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ค่าเสียหายคาดประมาณ 30 ล้านบาท

เวลา 06.00 น. พ.ต.ท.โยธิน เธียรสุขสันต์ สารวัตรเวรสภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ บ.สตาร์มาร์คแมนู แฟค เชอร์ริ่งจำกัด เลขที่ 1 / 109-110 นิคมซอย 12 ม. 2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ และเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ รองผวจ.สมุทรสาคร , นายไพศาล สำราญทรัพย์ นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร , พ.ต.อ. พงษ์ศักดิ์ ชูนาค ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร , พ.ต.ต.นนท์ ภักดีพันธ์ สวป.สภ.เมืองสมุทรสาคร  พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลนครสมุทรสาคร เทศบาลตำบลท่าจีน เทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก เทศบาลตำบลบางปลา อบต.ท่าทราย อบต.โคกขาม อบต.บางกระเจ้า และจากพื้นที่ใกล้เคียงอีกจำนวนเกือบ 20 คัน ให้รีบเดินทางไปสกัดกั้นเพลิง

 โดยจุดเกิดเหตุเป็นที่ตั้งสำนักงานชั่วคราวของบริษัทดังกล่าวมีพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ แต่เพลิงได้ลุกไหม้อยู่บริเวณโกดังเก็บสินค้าซึ่งมีขนาดประมาณ 1 ไร่ ทำให้โครงหลังคาของตัวอาคารโกดังชำรุดเสียหายเกือบทั้งหลังซึ่งพนักงานในโรงงานได้ช่วยกันค้นสารเคมีพวกทินเน่อร์และวัตถุไวไฟพร้อมทรัพย์สินมีค่าออกมาจากจุดเกิดเหตุโดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการฉีดสกัดเพลิงจึงสงบ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าตัวโครงหลังคาของอาคารโกดังเสียหายเกือบหมดและของที่อยู่ในโกดังอาทิไม้อัด ชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ประกอบเตรียมส่งออก ถูกเพลิงไหม้เสียหายจำนวนมากนอกจากนี้ยังมีรถยนต์กระบะที่จอดอยู่ในแผนกซ่อมบำรุงของโกดังถูกไฟไหม้เสียหายไป 2 คัน

 จากการสอบถามนายสุนทร อ้ายแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 / 3 ม. 2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นหัวหน้ารปภ.ของบริษัท บอกว่าในช่วงเกิดเหตุไม่มีพนักงานทำงานและขณะที่ตนไปตรวจดูความเรียบร้อยภายในบริษัทเมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบว่ามีประกายไฟออกมาจากแผนกไฟเบอร์ในโกดังจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์โดยค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าประมาณ 30 ล้านบาท สาเหตุเบื้องต้นคาดน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่จากวิทยาการมาตรวจสอบที่เกิดเหตุและหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 ด้านนายไพาล สำราญทรัพย์ นอภ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเพลิงลุกไหม้ บริเวณด้านท้ายของหลังอาคารชั้นเดียวอย่างรุรแรง จากการตรวจสอบทราบเป็น อาคารซ่อมบำรุงเครื่องจักรยนต์ และคลังเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตแล้ว โดยมีสารเคมี อาทิ ทินเนอร์ และน้ำมันเคลือบเงา จำนวนมากจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

 นายไพศล กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าดับเพลิงนั้น ใช้เวลาในการควบคุมไฟไหม้ครั้งนี้ราว 3 ชม . คาดว่าเสียหายไปราว 15 ล้านบาท ส่วนความเสียหายเกิดขึ้นนอกจากตัวโครงสร้างของตัวอาคาร มีรถยนต์กระบะที่ใช้ขนเฟอร์นิเจอร์ จอดทิ้งไว้ภายใน 3 คัน ถูกไฟไหม้ไปด้วย และอุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ หลายรายการ ขณะนี้กำลังเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ โดยคาดว่ามูลค่าความเสียหายทั้งหมดไม่น่าจะเกิน 30 ล้านบาท ทั้งนี้ กำลังรอผลสรุปแท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง   

 นายสุนทร อ้ายแก้ว อายุ 55 ปี ชาวท่าทราย รปภ.โรงงาน เล่าว่า เวลาประมาณ 05.45 น . ก่อนเกิด เป็นช่วงที่ไม่มีใครอยู่ภายใน เพราะยังไม่ถึงเวลาทำงาน ขณะที่ตนกำลังเฝ้ายามอยู่ เห็นกลุ่มควันไฟลอยขึ้นมา จากอาคารซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล ด้านหลังของตัวโรงงาน อย่างรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะลามไปแผนกไฟเบอร์ จึงได้รีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทให้ได้รับทราบ และโรงพักทันที