นายนพดล เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันดีที่พี่น้องที่เคยขัดแย้ง เข้าใจผิดกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน ได้กลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิม
ซึ่งหลังจากที่ตระกูลธรรมวัฒนะต้องเผชิญกับเรื่องราวที่เลวร้าย และต้องผ่านการต่อสู้กับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วว่า ตนไม่มีความผิด และอยากให้พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ยังเชื่อว่า นายห้างทองถูกฆาตกรรมยอมจำนนต่อหลักฐาน และข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน
นายนพดล กล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดใจแถลงข่าวในวันนี้ของครอบครัวธรรมวัฒนะ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการสร้างภาพแต่อย่างใด
เพราะในความเป็นพี่น้อง ทุกคนยังมีความรักและเข้าใจกันเสมอ ซึ่งถ้าพี่น้องคนใดยังถูกกิเลสครอบงำ และยังไม่ยอมกลับตัว ก็ขอให้บรรพบุรุษช่วยดลบันดาลให้คนเหล่านี้กลับมาเหมือนเดิมด้วย ด้านนางณฤมล กล่าวว่า อยากขอโทษนายนพดลในสิ่งที่เคยทำผิดพลาดไป ทั้งที่เคยล่วงเกินแบบต่อหน้าและลับหลัง ตั้งใจและไม่ตั้งใจ วันนี้ศาลได้ตัดสินแล้วว่านายนพดลไม่ผิด จึงอยากให้ยกโทษให้ เพราะเวลานี้รู้แล้วว่าใครที่หวังดีและใครที่ไม่หวังดีกับครอบครัวของเรา นายนพดลพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อครอบครัว แต่ในขณะที่อีกฝ่ายพยายามทำทุกอย่างเพื่อหวังผลประโยชน์ในทรัพย์สินของตระกูล
สำหรับซีรีส์มรดกเลือดตระกูลธรรมวัฒนะ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2542 นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ พบกลายเป็นศพ
โดยถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องนอนของนายนพดล ผู้เป็นน้องชาย ที่บ้านพักย่านสะพานใหม่ ซึ่งการเสียชีวิตของนายห้างทองนำมาสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงในกลุ่มพี่น้องตระกูลธรรมวัฒนะ ญาติพี่น้องฝ่ายหนึ่งสงสัยเรื่องการเสียชีวิต จนเมื่อแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ได้ยืนยันว่า นายห้างทองถูกฆาตกรรม จนต้องมีการผ่าชันสูตรพิสูจน์นายห้างทองเป็นครั้งที่สอง ขณะที่นายนพดลไม่เชื่อผลการผ่าพิสูจน์ศพในครั้งที่สอง จึงได้ยื่นเรื่องต่อศาล ขอให้มีการผ่าชันสูตรศพนายห้างทองครั้งที่ 3 โดยมีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชในประเทศไทย เข้าร่วมชันสูตรกว่า 10 คน และเข้าร่วมสังเกตการณ์อีกกว่า 20 คน ซึ่งผลพิสูจน์ออกมาตรงกันข้ามกับแพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์
ท้ายที่สุดเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาตามศาลชั้นต้นยกฟ้องนายนพดล
เพราะจากผลการผ่าพิสูจน์สามครั้งของแพทย์เชี่ยวชาญด้านนิติเวช ให้ความเห็นตรงกันข้ามกัน โดยครั้งแรกระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ครั้งที่ 2 ระบุว่าน่าจะเป็นการจัดฉากฆาตกรรม และครั้งที่ 3 เป็นการกระทำด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม การยื่นฟ้องคดีอาญา การนำพยานหลักฐานเข้าสืบในชั้นพิจารณาเป็นภาระของโจทก์ โดยเมื่อไม่ปรากฎว่าโจทก์มีพยานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าจำเลยกระทำความผิดได้ จึงพิพากษายกฟ้องตามศาลชั้นต้น
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
