"ปัญหามลพิษส่งผลรุนแรงต่อชาวบ้าน"
ปัญหามลพิษด้านเสียงจากเครื่องบินที่บินขึ้นลงของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ยังเป็นผลกระทบรุนแรงต่อชาวบ้านในย่านดังกล่าวนั้น เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เร่งสรุปจำนวนบ้านเรือนที่จะได้รับผลกระทบจากการบินในแนว NEF มากกว่า 40 ในสภาพการใช้สนามบินสุวรรณภูมิปัจจุบัน นอกเหนือจากจำนวน 71 หลังคาเรือนที่ระบุในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ว่า
บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ต้องอพยพโยกย้าย และจ่ายค่าชดเชยให้กับชาวบ้านกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าหลังเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ มีชุมชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่แถวโซนเหนือและโซนใต้ของสนามบิน ได้รับผลกระทบจากเสียงดังมากน้อยแตกต่างกันไป นอกเหนือที่ระบุในอีไอเออย่างแน่นอน ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้ากรมควบคุมมลพิษจึงจะสรุปความชัดเจนของบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติมให้ ทอท.นำไปหาทางช่วยเหลือต่อไป
กรณีของบ้าน 71 หลังนั้น ถือว่าอยู่ในกรอบที่ทอท.ต้องจ่ายค่าชดเชยและอพยพชาวบ้านที่อยากย้ายออกจากพื้นที่แน่ๆ ซึ่ง พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ก็เร่งรัดให้ ทอท.ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว แต่ในการจ่ายค่าชดเชยนั้น ทอท.ต้องนั่งคุยกันและหาข้อสรุปให้ได้ เพราะแต่ละหลังคาเรือนอาจได้ค่าชดเชยไม่เท่ากัน เจ้าของบ้านบางรายอาจไม่อยากย้าย แต่ก็ได้รับค่าชดเชยสำหรับนำไปปรับปรุงบ้านเรือนให้บรรเทาปัญหาเสียงดังได้ นายสุพัฒน์กล่าว