เลี้ยงสุนัขไม่ไหวอย่าปล่อยทิ้งโทรแจ้งกทม.ไปรับที่บ้านทันที ลุยฉีดวัคซีนสุนัขบ้าฟรีทั่วกรุง
วันนี้ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร (กทม.)
ที่มีม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานที่ศาลาว่าการกทม. เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา นางมนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ได้รายงานสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในกรุงเทพฯ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น มีผู้เสียชีวิต 7 และ 6 คน จากผู้เสียชีวิตทั้งประเทศ 24 และ 13 คน ในปี 2552 และ 2553 รวมทั้งพบสัตว์เป็นโรคพิษสุนัขบ้าจากห้องชันสูตรโรค 69 ตัว และ 73 ตัวในปีดังกล่าว ตามลำดับ กทม. จึงจัดโครงการแก้ไขปัญหา 4 แนวทางได้แก่ 1. โครงการเลี้ยงไม่ไหว ให้กทม. เลี้ยง กรณีประชาชนไม่สามารถเลี้ยงสุนัขต่อได้ อย่านำไปปล่อยทิ้งให้จรจัด ส่งให้กทม.เลี้ยงแทน โดยโทรมาได้ที่ 02-328-7460 และ 02-245-3311 ตั้งแต่บัดนี้
กทม.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับถึงบ้านมาเลี้ยงเอง 2 โครงการณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยงระหว่างวันที่ 6-10 ก.ย. นี้
โดยจัดหน่วย 50 หน่วย ออกฉีดบริการฟรี ทั่วกรุงเทพฯ ตามชุมชนต่างๆ 3. โครงการบ้านพักพิงสุนัขในชุมชน สนับสนุนประชาชนเลี้ยงสุนัขอย่างเหมาะสมไม่ปล่อยให้จรจัด โดยพิจารณาจากจำนวนสุนัขจรมากกว่า 100 ตัวขึ้นไป กทม.จะสนับสนุนช่วยเหลือ ด้านวัสดุอุปกรณ์กรงสุนัข การตรวจสภาพแวดล้อมในการสร้างบ้าน การฉีดวัคซีนต่างๆ การทำหมันและให้คำแนะนำในการเลี้ยงดู เริ่มโครงการตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา นำร่องแล้ว 5 จุดได้แก่ วัดอมราวราราม เขตสายไหมที่เลี้ยงสุนัข 400 ตัว บ้านฟ้าซอยพัฒนาการ 44 เขตประเวศ 300กว่าตัว บ้านแสงตะวัน เขตตลิ่งชัน 400 ตัว บ้านป้าศรีเขตสวนหลวง 150 ตัว และวัดมะพร้าวเตี้ย เขตภาษีเจริญ สุนัขและแมว 400 ตัว ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้จะรณรงค์อีกครั้งเพื่อชักชวนให้ร่วมโครงการเพิ่มเติม และ 4 การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์วิทยุไม่ให้ทิ้งสุนัขกลายเป็นจรจัดสร้างปัญหาให้สังคม
ทั้งนี้ผู้ว่าฯกทม. เสนอแนะด้วยว่า ขอให้สำนักอนามัยเน้นทำหมันเพื่อลดจำนวนสุนัจจรจัดให้ได้
และใช้แนวทางการควบคุมจำนวนของประเทศอังกฤษและอเมริกา ที่ผู้ประกอบการจำหน่ายสุนัขก่อนขายต้องสอบประวัติผู้ซื้อว่ารักสัตว์อย่างแท้จริงและมีความพร้อมในการเลี้ยงดูไม่ปล่อยทิ้งภายหลัง ด้านพญ. มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.จะรณรงค์โครงการครั้งใหญ่เพื่อป้องกันและโรคพิษสุนัจบ้านเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตลง โดยดำเนินการควบคู่กับโครงการฝังไมโครชิพที่อดีตผู้บริหารกทม.เคยดำเนินการไว้