กทม.สบช่องรื้อบีอาร์ทีคืนชีพ อ้างเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 5 สาย

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าววันนี้ (8 พ.ย.) กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการดำเนินการโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวม 5 เส้นทาง ว่า กทม.โดยสำนักการจราจรและขนส่ง เตรียมนำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับการอนุมัติของรัฐบาลให้ผู้บริหารทราบเพื่อหารือในรายละเอียดดังกล่าว

ในวันศุกร์ที่ 10 พ.ย.นี้ จากนั้นจะประสานงานร่วมกับรัฐบาลผ่านกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ในการร่วมกันดำเนินการต่อไป โดยเส้นทางรถไฟฟ้า 5 สายจะมี 2 สายที่ กทม.ดูแลอยู่ คือส่วนต่อขยายจากหมอชิต-สะพานใหม่ และสายอ่อนนุช-แบริ่ง-สมุทรปราการ

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อถึงรถเมล์ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) ว่าจากที่เคยเสนอเรื่องรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีผ่านกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอปรับมติ ครม.อนุญาตให้ กทม.เดินรถโดยสารประจำทาง จากเดิมที่มติ ครม.ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทางในเขตกทม. แต่เพียงผู้เดียว

และได้ชะลอการดำเนินการไป อย่างไรก็ตาม เมื่อ ครม.อนุมัติดำเนินการรถไฟฟ้า 5 สายแล้ว น่าจะนำเรื่องรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที มาพิจารณากันอีกครั้ง จึงสั่งการให้สำนักการจราจรและขนส่งทำการศึกษาถึงเส้นทางเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีกับรถไฟฟ้าทั้ง 5 สาย

"จะพิจารณาว่ามีรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีเส้นทางใดที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนได้อย่างสะดวก และปริมาณผู้โดยสารมากเพียงพอ นอกเหนือจากเส้นทางรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที ที่ กทม.ได้ศึกษาไว้แล้ว 2 เส้นทาง คือ นวมินทร์-เกษตร-หมอชิต ระยะทาง 19.5 กิโลเมตร และสะพานกรุงเทพ-ช่องนนทรี ระยะทาง 16.5 กิโลเมตร โดยจะได้นำเรื่องดังกล่าวหารือกันในวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน เช่นเดียวกัน"

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวและว่า ประเด็นที่จะนำเข้าหารือในวันเดียวกันนี้ยังจะให้ศึกษาเพิ่มเติมในเส้นทางจากพื้นที่ด้านเหนือของ กทม.ย่านดอนเมือง บางเขน สายไหม ให้มีเส้นทางรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที ตรงไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงานของพนักงานที่เคยทำงานในสนามบินดอนเมืองแล้วต้องย้ายที่ทำงานไปยังสุวรรณภูมิ โดยจะสำรวจไปพร้อมๆ กันเพิ่มขึ้นอีก 1 เส้นทาง หลังจากที่สำนักการจราจรและขนส่งได้เสนอรายละเอียดทั้งหมดให้ผู้บริหารทราบแล้ว ต่อไปก็จะได้นำข้อมูลที่พิจารณาแล้วประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ