´สุรยุทธ์´ จะลงใต้หลังเลิกถือศีลอด

จากเหตุสยองสะเทือนใจชาวพุทธ คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 5 กก. ไว้ในถังขยะริมถนนจำรูญนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ดักสังหารพระสงฆ์ ขณะออกบิณฑบาต ช่วงเช้าวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ มีพระสงฆ์บาดเจ็บ 5 รูป ทหารชุดคุ้มครองพลีชีพ 1 นาย บาดเจ็บ 3 นาย และชาวบ้านบาดเจ็บ 3 รายนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 ต.ค. ที่หมวดบินเฉพาะกิจภาคใต้ อ.เมืองนราธิวาส พล.ต.จิรพันธ์ เกษมศานติ์สุข รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายวิชิต ชาติไพสิฐ์ รอง ผวจ.นราธิวาส น.อ.นิเวช บุตรศรี ผบ.ฉก.นาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบก.ภ.จ. นราธิวาส ร่วมเป็นประธานในพิธีส่งศพ พลทหารปราโมทย์ วรรณสุข อายุ 22 ปี ทหารสังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้ อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดกลางใจเมืองนราธิวาส ท่ามกลาง ตำรวจ ทหาร ประชาชน ทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมกว่า 500 คน ร่วมพิธีด้วยความโศกเศร้า

โดยทหารกองเกียรติยศนำศพทหารกล้า ขึ้นเครื่องบินลำเลียงของกองทัพเรือ เพื่อนำส่งกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ฌาปนสถานกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นเวลา 3 วัน จากนั้นจะเคลื่อนศพไปยังภูมิลำเนาเกิดที่ ต.หนองคู อ.เมือง จ.ยโสธร เพื่อขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป สำหรับพลทหารปราโมทย์ วรรณสุข จะได้รับการปูนบำเหน็จเลื่อนขั้น 7 ขั้นเป็นเรือตรี และครอบครัวได้รับเงินช่วยเหลือจาก จ.นราธิวาส และกองทัพเรือ รวมประมาณ 500,000 บาท ขณะเดียวกัน พลทหารชัยสิทธิ์ แสนดี อายุ 22 ปี ที่ถูกระเบิดในเหตุการณ์เดียวกันได้รับบาดเจ็บนั้น ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว แพทย์ รพ. นราธิวาสราชนครินทร์ อนุญาตให้นำตัวขึ้นเครื่องบินลำเดียวกัน เพื่อส่งไปรักษาต่อที่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

นางสมหมาย วรรณสุข แม่ของพลทหารปราโมทย์ กล่าวว่า หลังสูญเสียลูกชาย ครอบครัวคงลำบาก เพราะที่ผ่านมา พลทหารปราโมทย์ ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวได้มาก ประกอบกับยังมีหนี้สินที่กู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมทั้งยังมีภาระต้องส่งเสีย น.ส.เมธินี วรรณสุข บุตรสาวที่เหลืออีก 1 คน เรียนหนังสือ จึงอยากวิงวอนขอความช่วยเหลือจากกองทัพเรือ ให้อุปถัมภ์ด้านการศึกษาของบุตรสาวที่ต้องการเรียนต่อพยาบาลเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวด้วย

ต่อมาเวลา 13.30 น. พระครูปลัดภูเบศ ญาณาภิญโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี พร้อมคณะสงฆ์ เดินทางมาเยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจ พร้อมถวายปัจจัยจำนวนหนึ่งที่ชาว จ.ปทุมธานี ร่วมกันบริจาคให้แก่พระสมชาย โชติวโร เจ้าอาวาสวัดพรหมนิวาส อ.เมืองนราธิวาส กับพระลูกวัดอีก 3 รูป ที่ถูกระเบิดขณะออกบิณฑบาต ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ โดยแพทย์จะส่งตัวพระสงฆ์ทั้ง 4 รูป ไปรักษาต่อที่ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต่อไป ส่วนอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ใน รพ. สงขลานครินทร์ ล่าสุดยังคงอยู่ในห้องไอซียู 3 ราย อาการยังน่าเป็นห่วง 1 ราย คือ พลทหารวชิราวุฒิ แก้วสุวรรณ ยังไม่รู้สึกตัว มีเลือดออกตามลำตัวและขาทั้ง 2 ข้าง ความดันต่ำ ส่วนพระนัฐวุฒิ วิภาวัตตกันติ มีแผลบริเวณลำตัวด้านขวา แขนขวาหัก แต่รู้สึกตัวและหายใจได้ดี และพลทหารปรีชา ดุสิต รู้สึกตัวดี หายใจได้ แพทย์ได้ผ่าตัดขาขวาให้

ส่วนเหตุการณ์ร้ายยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.วัฒนา เกตุอำไพ ร้อยเวร สภ.อ. เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิดหน้าโรงเรียนบูกิตอิสลามีย๊ะห์ หมู่ 2 ต.บูกิต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผกก.สภ.อ.เจาะไอร้อง ร.ต.อ.วิรัตน์ เขียวนิล ผบ.มว.ตชด.2102 จ.สุรินทร์ นำกำลังไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดกว้าง 4 ฟุต ลึก 2 ฟุต มีเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องกระจายเกลื่อนถนน มีทหารบาดเจ็บ 2 นายถูกนำส่ง รพ.เจาะไอร้อง ทราบชื่อ ส.ท.อัครเดช พรหมสถาน และ ส.ต.สมหวัง เพ็งโสภา ทหารสังกัดกองพันพัฒนาพิทักษ์ทรัพยากรที่ 1 ร้อย ร.1012 ฉก.31 โดยขณะที่ทหารชุดดังกล่าวออกเดินเท้าลาดตระเวนไปถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายซึ่งลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กก.เอาไว้ ได้จุดชนวนด้วยโทรศัพท์ มือถือให้เกิดการระเบิดขึ้น ทำให้ทหาร 2 นายบาดเจ็บ

ส่วนกรณีคนร้ายใช้ปืนสงครามยิงถล่มนายรูยานิง สาอิ อายุ 42 ปี อดีตโต๊ะอิหม่าม และนักเผยแผ่ศาสนาอิสลามของสำนักจุฬาราชมนตรีเสียชีวิต ขณะลงจากมัสยิดหลังทำละหมาด เมื่อกลางดึกวันที่ 22 ต.ค.นั้น เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ต.ค. นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผวจ.ปัตตานี นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ รอง ผวจ. พล.ต.ต. ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 3 ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ บ้านของนายรูยานิง เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ครอบครัว พร้อมมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 1 แสนบาท โดยมีนางอาอีเสาะ บอรอดายา อายุ 33 ปี ภรรยาและลูกรับมอบด้วยความโศกเศร้า จากนั้น ผวจ.ปัตตานีเดินทางไป ตรวจที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากบ้านราว 500 เมตร บริเวณด้านหลัง รร.วัฒนธรรมอิสลาม ซึ่งเจ้าหน้าที่วิทยาการพบปลอกกระสุนอาก้า 3 ปลอก และร่องรอยคนร้าย คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้

ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. ร.ต.ท.กฤษณะ วิเศษสิงข์ ร้อยเวร สภ.อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี นำกำลังไปตรวจที่เกิดเหตุยิงกันบนถนนสายทุ่งยางแดง-ท่าธง หมู่ 5 ต.ปากู ห่างจุดตรวจน้ำดำ 200 เมตร พบรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน กทธ 491 ปัตตานี ล้มริมถนน ส่วนคนถูกยิงได้เสียชีวิตก่อนถึง รพ.ทุ่งยางแดง ทราบชื่อนายบุญญา นะแด อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 3 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี ถูกยิงด้วยปืนพกเข้าหน้าอก 1 นัด โดยผู้ตายเป็นลูกจ้าง กอ.สสส.จชต. ขณะขี่รถ จยย.มาจากตลาดนัดจะกลับบ้าน มีนายฮัมดี กระแก้ว อายุ 25 ปี เพื่อนร่วมงานนั่งซ้อนท้ายมาด้วย ระหว่างถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2 คนขี่รถ จยย.ตามประกบยิงจนรถ จยย.ล้ม ส่วนนายฮัมดีวิ่งหลบหนีได้ทัน

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุระเบิดใน จ.นราธิวาส ทำให้พระสงฆ์บาดเจ็บและทหารเสียชีวิตว่า เป็นเรื่องที่ทำร้ายความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศ การแก้ไขปัญหาคงจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร รัฐบาลพยายามใช้ สันติเข้าแก้ไขเป็นหลัก โดยทำความเข้าใจกับประเทศเพื่อนบ้าน ปรับองค์กรดำเนินงาน และทำความเข้าใจกับผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และเยาวชนด้วย เมื่อถามว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เตือนว่าให้ระวังในช่วงรื้อฟื้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ขึ้นมาใหม่ เพราะทำให้ เกิดเงื่อนไขของความรุนแรงทวีมากขึ้น พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า เป็นเรื่องของคนไทยทั้งชาติที่จะต้องช่วยกันแก้ไขทั้งปัญหาทางการเมืองและปัญหาทางภาคใต้ เพราะปัญหาความแตกแยกเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกว้างขวางลึกลงไปในรากฐานของสังคมเรา

เมื่อถามว่าจะใช้แนวทางเจรจาแบบในอาเจะห์ของอินโดนีเซียได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ผมเพียงแต่พูดว่าเราเห็นด้วยกับการเจรจาของอาเจะห์ แต่เราไม่ได้ใช้แนวทางของเขา ในแต่ละพื้นที่ทหารมีคำพูดอยู่ว่าต่างภูมิประเทศต่างวิธีรบ มันไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย เพียงแต่ว่าจะปรับอย่างไร ใช้แนวทางหลักๆอย่างไรนั้น อยู่ที่ผู้บริหารจะต้องมีความอ่อนตัว จะต้องมีทั้งศิลปะและความรู้

เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณี พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ไปเจรจากับแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเพราะเป็นเรื่องที่ดำเนินการในช่วงของรัฐบาลที่ผ่านมา ส่วนการเดินทางลงไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นคงต้องดูความพร้อมให้หมดช่วงถือศีลอดก่อน และจะไปค้างคืนหรือไม่ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง

ด้านความคืบหน้าในการตั้ง ศอ.บต. พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า เรื่องนี้ผ่านที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปแล้ว รอนำเข้า ครม.เพื่อทราบเท่านั้น ส่วนจะประกาศใช้ได้เมื่อใด เป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหมกับมหาดไทยว่าจะมีความพร้อมเริ่มทำงานได้เมื่อไหร่

ส่วนเรื่อง พ.ร.ก.บริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่หมดวาระ 3 เดือนไปเมื่อวันที่ 20 ต.ค. จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่าคงต้องดูว่าจะประกาศเพิ่มหรือไม่ ขณะนี้ใช้กฎอัยการศึกไปก่อน แต่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปเลยหรือไม่นั้น ต้องขอพิจารณาก่อน เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายไม่สามารถจะตัดสินใจได้คนเดียว เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ค่อนข้างมาก พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณา

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ