เจ้าพระยาลด กทม.พ้นภัย!

สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ยังวิกฤติ หลายจังหวัดยังจมบาดาล แม้ว่าระดับน้ำเจ้าพระยาเริ่มลดระดับลงแต่ยังสูงกว่าพื้นที่ที่ไหลผ่าน โดยเฉพาะอ่างทอง สิงห์บุรีและพระนครศรีอยุธยา ผู้ประสบภัยต่างผจญความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ส่วนธารน้ำใจได้หลั่งไหลไปซับน้ำตาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาคใต้เตรียมรับเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาระบุภาคใต้มีสิทธิ์น้ำท่วมหนักใน ช่วงปลายเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้

มั่นใจน้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ต.ค. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ไปตรวจเยี่ยมชุมชนวัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำในคลองมหาสวัสดิ์เอ่อล้นมานานเกือบ 1 เดือน สั่งให้เจ้าหน้าที่ซ่อมแซมสะพานไม้เดินเข้าออกชุมชนให้มีความมั่นคงแข็งแรง พร้อมกันนี้ นายอภิรักษ์เปิดเผยถึงน้ำทะเลจะหนุนสูงระหว่าง วันที่ 23-25 ต.ค. ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำเหนือที่ปล่อยลงมาเหลือ 4,448 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อสัปดาห์ก่อนที่สูงถึง 5,500 ลบ.ม./วินาที จึงไม่น่าเป็นห่วง เพราะน้ำเหนือมีไม่มาก ดังนั้น ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะไม่สูงเกินกว่าแนวเขื่อนที่ กทม.สร้างไว้แน่นอน อย่างไรก็ตาม พื้นที่ 7 เขต ได้แก่ พระนคร ดุสิต บางซื่อ บางพลัด บางกอกน้อย ตลิ่งชัน และทวีวัฒนา ซึ่งอยู่แนวนอกคันกั้นน้ำอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง

จากการตรวจสอบของ กทม. พบว่ามีน้ำท่วมขังใน 19 เขต และบ้านเรือน 1,999 หลัง ได้รับความเดือดร้อน ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ อาทิ ชุมชุนวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ ชุมชนวัดภคินีนาถ เขตบางพลัด ชุมชนโรงสี เขตยานนาวา น้ำท่วมสูง 60-80 ซม. รวมทั้งชาวบ้านย่านฝั่งธนฯด้านที่ติดกับคลองมหาสวัสดิ์ สาเหตุน้ำในคลองบางกอกน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยาหนุนขึ้นสูง ซึ่งทาง กทม.เข้าไปช่วยเหลือโดยสร้างสะพานทางเดิน ขณะที่ชาวบ้านริมคลองทวีวัฒนา ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ จากน้ำหลากเข้ามาตามทุ่งและคูคลองขนาดเล็ก คาดว่าประมาณกลางเดือน พ.ย.นี้ สถานการณ์คงจะคลี่คลาย

ที่ จ.ชัยนาท น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทะลักเข้าท่วมหมู่ 3 ต.ธรรมามูล อ.เมือง ความแรงของน้ำซัดถนนสายดักคะนน-มโนรมย์ ขาดใช้การไม่ได้ยาวประมาณ 30 เมตร แถมยังทำให้กำแพงวัดดักคะนน พังทลายลงเป็นแถบกว่า 45 เมตร ทั้งที่เป็นกำแพงเพิ่งจะสร้างเสร็จ ส่วนเขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำออก 4,050 ลบ.เมตรต่อวินาที และรับน้ำจาก จ.นครสวรรค์ 5,245 ลบ.เมตรต่อวินาที ซึ่งลดลงจากวันก่อนมากพอสมควร

พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพอ่วม

ด้าน จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำจากทางภาคเหนือเริ่มมาถึง ทำให้น้ำไหลบ่าท่วมถนนสายสิงห์บุรี-สุพรรณบุรี บริเวณคลองลำแม่ลา หมู่ 3 ต.จักรสีห์ อ.เมือง ทางจังหวัดต้องขอกำลังทหารจาก จ.ลพบุรี มาช่วยสร้างพนันกั้นน้ำไม่ให้เพิ่มขึ้นสูง ส่วนที่วัดพิกุลทอง หรือวัดหลวงพ่อแพ หมู่ 3 ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง น้ำได้ไหลเข้าท่วมถึงพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพแล้ว ทางวัดต้องระดมพระเณรและชาวบ้านสร้างพนังกันน้ำป้องกันไว้ เพราะพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวเป็นสถานที่เก็บศพหลวงพ่อแพ รวมถึงพระพุทธรูปปางประทานองค์ใหญ่ ที่สุดในประเทศไทยด้วย

ขอบริจาคเรือช่วยชาวบ้าน

ขณะเดียวกัน นายประกาศ บุญยินดี ผวจ.สิงห์บุรี ได้มอบเงินช่วยเหลือของจังหวัดให้กับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมใน จ.สิงห์บุรี 3 ราย พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ธารน้ำใจได้หลั่งไหลมาช่วยผู้ประสบภัยจำนวนมากทางจังหวัดต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญแทนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางจังหวัดต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือเรือ เพราะสามารถใช้เป็นพาหนะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้เร็วขึ้น หรือผู้ที่ต้องการจะบริจาคเป็นเงินสดสามารถโอนเข้ามาได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสิงห์บุรี บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี เงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ จ.สิงห์บุรี หมายเลขบัญชี 116-0-07045-8

ส่วนที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี มีผู้สังเวยชีวิตเพิ่มอีก 1 ศพ คือนายอำนาจ กลิ่นขำ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 9 ต.งิ้วราย อ.อินทร์บุรี ขี่ จยย.ผ่านถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 2 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี ที่ถูกน้ำท่วมแล้วถูกคลื่นซัดจมน้ำ ชาวบ้านช่วยงมหานำส่งรพ.สิงห์บุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำยังทรงตัวหลายพื้นที่ โดยเฉพาะหมู่บ้านเคหะชุมชนโครงการ 1 บริเวณหลังโรงแรมอู่ทองอินน์ที่ถูกน้ำจากแม่น้ำลพบุรี-ป่าสัก ไหลเข้าท่วมขัง แต่ทางการเคหะแห่งชาติปฏิเสธการช่วยเหลือ กระทั่งช่วงเช้าวันเดียวกันได้มีตัวแทนชาวบ้านเดินทางไปขอความช่วยเหลือจาก ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครนครศรีอยุธยา หลังทราบเรื่อง ว่าที่ ร.ต.สมทรงได้ส่งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ระดมสูบน้ำออกจากหมู่บ้านเคหะชุมชนทันที

ส่วนที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมเกาะเมืองกรุงเก่า ตั้งอยู่หน้าเจดีย์ศรีสุริโยทัย ได้มีพระอาจารย์สมชาย ปุญญมโน แห่งวัดป่าสว่างบุญ จ.สระบุรี พร้อมสมาชิกชมรมสมุนไพรปัญจะศรี ได้ทำพิธีถวายผ้าป่าด้วยเรือไฟเบอร์ 20 ลำ ให้แก่วัดต่างๆใน จ.พระนครศรีอยุธยา 20 วัด สำหรับที่ อ.บางบาล นายอุบล หาประทุม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเห็นจระเข้อย่างน้อย 2 ตัว โผล่ในหมู่บ้านซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และที่ อ.เสนา ภายหลังจากทางชลประทานผันน้ำเข้าทุ่งจนเต็มนั้น ปรากฏว่า น้ำได้ทะลักเข้าท่วมที่วิทยาลัยการอาชีพเสนา ถนนสายเสนา-สุพรรณบุรี เสียหายอย่างหนัก

เตรียมพังที่กั้นน้ำหวิดปะทะ

ขณะเดียวกันชาวบ้านหมู่ 9 ต.ลาดบัวหลวง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 50 คน ได้รวมตัวที่คันกั้นน้ำที่บริเวณหมู่ 1 ต.หลักชัย เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังมานานเกือบเดือน ทำให้น้ำเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น เตรียมจะพังคันกั้นน้ำเพื่อให้น้ำไหลไปอีกฝั่ง จนเกิดมีปากเสียงหวิดปะทะกับชาวบ้านอีกฝ่าย ต่อมานายวิชา ดาวแจ่ม นายก อบต.หลักชัย ได้มาเจรจาไกล่เกลี่ย พร้อมนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาสูบน้ำที่เน่าเสียไปลงคลองหลักชัยและผันไปลงคลองพระยาบันลือแทนเพื่อให้น้ำไหลเวียนและระดับก็จะลดลง ชาวบ้านทั้งสองฝ่ายพอใจจึงแยกย้ายกันกลับ ในตอนเย็นวันเดียวกันนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกเยี่ยมประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายอำเภอของ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมชมเชยชาวอยุธยาที่เสียสละทุ่งนาเพื่อระบายน้ำเข้าไม่ให้น้ำท่วมขังสูง

สำหรับ จ.อ่างทอง กระแสน้ำที่ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอ แถมระดับน้ำยังคงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะที่ตลาดศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ ซึ่งถูกน้ำจากแม่น้ำน้อยทะลักท่วมและยังถูกกระแสน้ำจาก อ.โพธิ์ทองที่ไหลบ่าข้ามถนนเข้าท่วมตลบหลังอีก ทำให้ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ตั้งแต่ช่วงแยกป่างิ้วไปจนถึง อ.วิเศษชัยชาญ ถูกนำท่วมสูง 50 ซม.และยังชำรุดเป็นหลุม ทำให้รถสัญจร ไปมาลำบาก ขณะที่ อ.โพธิ์ทอง พื้นที่เกษตรถูกน้ำท่วมจมมิดหมด ระดับน้ำสูงถึง 3 เมตร และช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ต.อ.ภูบาล ทับจันทร์ ผกก.สภ.อ.โพธิ์ทอง รับแจ้งจากนางดวงพร บุญประสงค์ ราษฎร ต.บางพลับ ว่า พบจระเข้ มีความยาวประมาณ 2.5 เมตร ลอยตัวขึ้นมาที่วัดบุญศิริ ต.บางพลับ จึงสั่งให้ชุดเคลื่อนที่เร็วไปตรวจสอบ แต่ไม่พบจึงประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง

โรงเจป่วนน้ำทะลักท่วม

ต่อมาตอนบ่ายวันเดียวกัน กระแสน้ำได้กัดเซาะถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีอ่างทอง ต.ศาลาแดง อ.เมืองอ่างทอง จนพังยุบลงไป 1 ช่องทางจราจร เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถแบ็กโฮมาระดมซ่อมแซม ขณะที่พื้นผิวถนนสายเดียวกันบริเวณหน้าตลาดกลางข้าวเปลือก ต.ป่างิ้ว อ.เมือง กระแสน้ำกัดเซาะจนถนนทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ ส่วนที่โรงเจเพ่งอังตั๊ว ต.ตลาดหลวง ในช่วงเทศกาลกินเจวันแรกนั้น ปรากฏว่าผู้ที่เดินทางมาถือศีลกิจเจต่างประสบปัญหาและไม่ได้รับความสะดวก เนื่องจากภายในโรงเจถูกน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร ถึงแม้ว่าทางคณะกรรมการจะก่ออิฐล้อมภายในห้องประกอบพิธีกรรมเอาไว้ แต่น้ำได้ซึมทะลักพื้นขึ้นมา จนต้องย้ายโต๊ะเซ่นไหว้ขึ้นไปตั้งไว้บนโต๊ะด้านหน้า ขณะที่โรงครัวที่ประกอบอาหารนั้นถูกน้ำท่วมจมมิด ต้องย้ายไปประกอบอาหารที่อื่น

กองทัพยุงอาละวาดหนัก

นอกจากต้องประสบปัญหาน้ำท่วมหนักแล้ว ชาวตลาดอ่างทอง อ.เมืองอ่างทอง ยังต้องประสบปัญหากองทัพยุงจำนวนมากออกอาละวาดกัดกินเลือด สาเหตุเนื่องจากน้ำท่วมขังนานและเริ่มเน่าเสีย ต่างหวาดผวาจะป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ถูกน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองอ่างทองว่าได้รับความเดือดร้อนไม่มีน้ำอุปโภคบริโภค เนื่องจากน้ำประปามีกลิ่นเหม็นและขุ่นข้นเหมือนน้ำที่ ท่วมขัง ไม่สามารถนำมาบริโภคได้ เมื่อใช้อาบก็เป็นผด ผื่นคันคะเยอตามตัว และบางครอบครัวไม่เคยได้รับแจกถุงยังชีพทั้งที่มีบ้านอยู่ในเขตเทศบาลเมือง

ด้าน นพ.ถวัลย์ พบลาภ สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ระดมทีมออกให้ความช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ คาดว่าสถานการณ์อาจยืดเยื้อนานถึง 2 เดือน จากการสำรวจสุขภาพผู้ประสบภัย ช่วงวันที่ 6-18 ต.ค. พบว่าประชาชนพอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งการให้บริการ การให้ความรู้ ป้องกันโรค อยู่ในระดับดีมาก ถึงร้อยละ 60 ส่วนการป่วยจากน้ำท่วม ในช่วงกว่า 1 เดือนจนถึงขณะนี้ พุ่งขึ้นเกือบ 40,000 ราย ส่วนใหญ่เท้าเปื่อยร้อยละ 64 ถูกงูเห่ากัด 3 ราย แพทย์ฉีดเซรุ่มป้องกันพิษได้ทัน อาการปลอดภัย นอกจากนี้ยังพบบาดแผลจากอุบัติเหตุร้อยละ 15 ตาแดงร้อยละ 12 ไข้หวัดร้อยละ 7 ท้องเสียจากดื่มน้ำและกินอาหารที่ไม่สะอาดร้อยละ 6 ยังไม่พบโรคฉี่หนู

ผู้ประสบภัยเครียดจัด

นพ.ถวัลย์กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลกระทบด้านจิตใจ พบว่ารู้สึกสูญเสียและเป็นห่วงทรัพย์สินสิ่งของภาย ในบ้าน ร้อยละ 81 นอนไม่หลับเพราะคิดมากหรือกังวล ร้อยละ 79 รู้สึกไม่มีความสุข ร้อยละ 60 และมีการดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ดื่มหนักจนถึงขั้นมึนเมา ร้อยละ 6 ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขได้วางแผนจัดส่งจิตแพทย์นักจิตวิทยาออกให้คำปรึกษาฟื้นฟูด้านจิตใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิดทุกวัน และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากน้ำท่วมขณะนี้อยู่ในวงกว้างทุกอำเภอ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ เปิดให้บริการปรึกษาด้านสุขภาพและแจ้งเหตุการณ์ป่วยฉุกเฉินแก่ประชาชนที่หมายเลข 1669 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

ระดมกู้ถนนสายเศรษฐกิจ

จ.สุพรรณบุรี นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รอง ผวจ. รักษาราชการแทน ผวจ.สุพรรณบุรี นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายก อบจ. พล.ต.ต.ปราโมทย์ ไทรหอมหวล ผบก. และนายเอกพันธ์ อินทร์ใจเอื้อ รองนายกเทศบาลเมือง ร่วมกันออกตรวจน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองที่ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนด้วยการเร่งระดมกู้ถนนเณรแก้ว ซึ่งเป็นถนนสายหลักในย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองที่ถูกน้ำท่วมก่อน โดยการสูบน้ำระบายออกสู่ทุ่งนา ขณะที่ถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี น้ำเริ่มท่วมกินพื้นที่เข้าไปในเส้นทางหลัก ทางสำนักทางหลวงที่ 10 จึงนำกระสอบทรายมากั้นให้น้ำท่วมเฉพาะถนนคู่ขนานเพื่อไม่ให้การสัญจรจาก กทม. สู่จังหวัดทางภาคเหนือเกิดปัญหา

นพ.ชัชรินทร์ ปิ่นสุวรรณ ผอ.รพ.เจ้าพระยายมราช กล่าวว่า ขณะนี้มีน้ำท่วมรอบโรงพยาบาลสูง 70 ซม. สามารถให้บริการได้ตามปกติ เนื่องจากทางโรงพยาบาลได้ทำกระสอบทรายและเขื่อนดินกั้นน้ำไว้ ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่สามารถเดินทางเข้าโรงพยาบาลโดยนั่งรถทหารซึ่งทางโรงพยาบาลได้จัดไว้บริการ ในขณะนี้มีผู้ป่วยมารับบริการที่โรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยนอกเฉลี่ยวันละ 1,200 ราย และผู้ป่วยในวันละ 650 ราย

เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ต.ค. พ.ต.ท.สุชาติ พวงสมบัติ สารวัตรเวร สภ.อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี พร้อมมูลนิธิกู้ภัยเณรแก้วสุพรรณบุรี ไปสอบสวนคนจมน้ำตายที่บ้านเลขที่ 32 บ้านคลองขุด หมู่ 4 ต.วัดโบสถ์ พบศพนายนิพนธ์ อำพันธ์ทอง อายุ 35 ปี เจ้าของบ้าน ถูกนำขึ้นไว้บนบ้านแล้ว สอบสวนทราบว่า ขณะผู้ตายเดินบนสะพานไม้จะเข้าบ้านซึ่งมีน้ำท่วมสูง ทำให้เสียหลักหัวทิ่มดิ่งลงน้ำไปติดอยู่ใต้ถุนบ้านจนพบเป็นศพ

แม่น้ำน่าน-ยมลดระดับ

สำหรับ จ.พิจิตร ระดับน้ำเริ่มลดลงตามลำดับ เนื่องจากแม่น้ำน่านกับแม่น้ำยมที่ไหลผ่านได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมนานเกือบ 2 เดือนทำให้ขาดรายได้เลยหันมาทำปลาร้าขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยนางประภา หมื่นสุข อายุ 32 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 47/1 หมู่ 8 บ้านย่านยาว ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง เปิดเผยว่าภายหลังที่แม่น้ำยมท่วมบ้านนานนับเดือน เลยอพยพไปสร้างเพิงอาศัยอยู่ข้างถนนสายย่านยาว-วังเทโพ ขณะเดียวกัน สามีได้ออกจับปลาได้ จำนวนมากเลยนำมาหมักทำปลาร้ากินเอง แต่จำนวนปลาเพิ่มมากขึ้นจึงทำปลาร้าขายเพื่อนบ้าน ภายหลังมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่สร้างรายสัปดาห์ละ 300-500 บาท

ระดับน้ำเริ่มลดลงต่อเนื่อง

ที่กรมชลประทาน นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ เริ่มลดลงเหลือ 5,250 ลบ.ม.ต่อวินาที และมีแนวโน้มจะลดลงเรื่อยๆ หากไม่มีฝนตก ลงมาอีกเชื่อว่าพื้นที่กรุงเทพฯก็ไม่น่าห่วง ขณะนี้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างประชาชน 2 ฝั่งคลองเจ้าเจ็ด อ.บางบาล ที่มีน้ำท่วมขังจนเน่าเหม็นทำให้ชาวบ้านฝั่งที่ถูกน้ำท่วมขัง ต้องการให้เปิดคันกั้นน้ำเพื่อระบายน้ำไปทางคลองพระพิมลไปแม่น้ำท่าจีน แต่ ประชาชนอีกฝั่งไม่ยอม จึงได้มอบหมายให้นายพีรพงศ์ สุวรรณมนตรี รองอธิบดีกรมชลประทาน กับนายอำรงค์ ม่วงงาม ผอ.สำนักอุทกวิทยาและจัดสรรน้ำ ไปช่วยเจรจาแก้ไขแล้ว

ทางด้านนายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรม ชลประทาน เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมการรับมือพื้นที่ภาคใต้ในช่วงฤดูฝน ทางอธิบดีกรมชลฯได้สั่งให้โครงการชลประทานทุกจังหวัดเฝ้าระวังและพร้อมติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องใน จ.ชุมพร โดยเฉพาะคลองหัววัง พนังตัก ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เร่งระบายน้ำจาก อ.ท่าแซะ ไหลลงทะเลก่อนเข้าตัวเมือง นอก จากนี้ยังมีโครงการแก้มลิงหนองใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริคอยรับด้วย รวมทั้งแผนสร้างอ่างเก็บน้ำท่าแซะขนาดความจุ 194 ล้าน ลบ.ม.

ขุดคลองระบายน้ำหาดใหญ่

รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวด้วยว่า ส่วน จ.นครศรีธรรมราช มีโครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมและมีระบบโทรมาตรการปิด-เปิดประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิที่สอดคล้องกับสภาวะการขึ้น-ลงของน้ำทะเล สำหรับพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ขุดลอกคลองระบายน้ำสายใหม่อีก 6 สาย พร้อมติดตั้งระบบโทรมาตรเตือนภัยน้ำท่วม 13 จุด กับคลองสายใหม่อีก 1 แห่ง จะขุดเสร็จในต้นเดือน พ.ย.นี้ เชื่อว่าสามารถระบายน้ำออกจากอำเภอหาดใหญ่ได้ทันท่วงที หากเกิดน้ำท่วม

เหนือหนาว-ใต้ฝนหนาแน่น

เย็นวันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาวะอากาศทั่วไปว่า ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยทำให้มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีฝนเป็นแห่งๆร้อยละ 30 ของพื้นที่ส่วนมากในตอนเย็นและค่ำ สำหรับภาคใต้ มีลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาค ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ตรัง สตูล นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส

โพลระบุน้ำท่วมสินค้าแพง

ด้านนายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพล เปิดเผยว่า สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้สำรวจครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 1,017 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 16-21 ต.ค. พบว่าร้อยละ 39.3 ระบุน้ำท่วมทุกปี และพบว่าผู้ที่พักอาศัยอยู่ในซอยจะประสบปัญหาน้ำท่วมมากกว่า โดยร้อยละ 41.2 ระบุประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปี ส่วนปัญหาจากภัยน้ำท่วมที่สร้างความเดือดร้อนให้มากที่สุด ได้แก่ ปัญหาด้านสภาพแวดล้อมและปัญหาปากท้อง โดยส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 ระบุของกินของใช้มีราคาสูงขึ้น และกว่าร้อยละ 70 ระบุสภาพชีวิตความเป็นอยู่โดยรวมแย่ลง และเป็นที่น่าสังเกตตัวอย่างประมาณ 1 ใน 3 ต้องกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ด้านผลกระทบทางด้านอารมณ์และความรู้สึก พบว่ากว่าร้อยละ 50 รู้สึกว่าตนเองไร้ค่าถูกทอดทิ้งจากหน่วยงานของรัฐ อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 52.9 ระบุปัญหาน้ำท่วมปีนี้เป็นเรื่องของภัยธรรมชาติ ไม่อยู่ในวิสัยที่จะแก้ไขได้ ขณะที่ร้อยละ 47.1 ระบุเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการป้องกันที่ดี

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ