ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยกับคนเสื้อแดงกลายเป็นเนื้อเดียวกันว่า ชัดเจนอยู่แล้วเพราะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีคนเสื้แดงแล้ว 70-80 คน
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับการขึ้นเวทีคนเสื้อแดงของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ แต่เป็นห่วงสาระที่ พ.อ.อภิวันท์พูดมากกว่า เพราะเป็นตัวบ่งบอกอีกครั้งว่าเงื่อนไขการเจรจา การยุบสภาไม่ชัดเจน เพราะ พ.อ.อภิวันท์ไปพูดถึงขั้นว่าตนไม่ได้มีอำนาจ ต้องไปถึงประธานองคมนตรี จึงได้ยืนยันว่าถ้าเรื่องของการเจรจาระหว่างฝ่ายการเมืองเป็นเรื่องการยุบสภา ไม่มีวาระอื่น พูดกันง่าย แต่มีสิ่งที่เป็นตัวบ่งบอกตลอดเวลาว่าไม่ใช่เช่นนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าการยุบสภาไม่ทำให้ปัญหาจบ แล้วสิ่งใดที่จะทำให้ปัญหาจบได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า
สิ่งที่บอกว่าจบถ้าไปยึดเอาความต้องการของฝ่ายใดคงไม่ได้ มีประชาชนอีกจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้ชุมนุมต้องการ ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือ การคำนึงถึงความเหมาะสมที่เป็นทางออกของบ้านเมืองอย่างแท้จริง สำหรับตนถ้าทางออกของบ้านเมืองข้ามเส้นความถูกต้อง กระทบกระเทือนกับสถาบันหลัก และกฎหมายของประเทศ จะโอนอ่อนตามไม่ได้
ซัด "แดง" ไม่ยอมจบต่อรองถึงปธ.องคมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านเสนอให้นายกรัฐมนตรีไปหารือกับประธานองคมนตรีเพื่อร่วมกันหาทางออก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตั้งข้อสังเกตตั้งแต่ต้น เพราะดูว่ามีสิ่งที่บ่งบอกว่าปัญหามันไม่จบ จากจุดหนึ่งคงต้องไปอีกจุดหนึ่ง มอบให้รัฐมนตรีไปเจรจาก็ไม่ยอม บอกต้องเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียว ขณะนี้ลามไปถึงประธานองคมนตรี ก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อ ดังนั้น ถ้าจะพูดคุยกันต้องขีดเส้นให้ชัดว่าควรคุยกันเรื่องอะไร เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าอีกไม่นานปัญหาจะจบ ยังคงมีความหวังได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พยายามทำไปโดยลำดับ ให้ทุกคนทำหน้าที่กันให้ได้เป็นปกติมากที่สุด
เมื่อถามว่าปัญหาไม่ได้อยู่แค่ตัวผู้ชุมนุม แต่มีการยิงเอ็ม-79 มีการก่อวินาศกรรมเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถือเป็นส่วนหนึ่ง และออกหมายจับมือยิงอาร์พีจี
ทุกฝ่ายทำงานอย่างเข้มแข็งในการบังคับใช้กฎหมาย เมื่อถามว่า นายวีระเสนอว่าอยากให้ประเทศมีนายกรัฐมนตรี 2 คน เหมือนประเทศกัมพูชา มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามประชาชนว่า อยากให้ประเทศไทยใช้ระบบอย่างนั้นหรือไม่ ซึ่งตนไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น