เตือนพื้นที่รอบนอกกรุงฯ รับมือวิกฤติน้ำท่วม อาจรุนแรงเท่าปี 38

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนในช่วงระยะนี้ คงคลายความวิกฤติลงไปได้ เนื่องจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ผันน้ำจำนวน 2 3 แสน ลบ.ม.

เข้าไปในที่ดินส่วนพระองค์ ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย (ทุ่งมะขามหย่อง) ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งก็จะช่วยลดปริมาณน้ำมิให้ไหลเข้ามาท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ส่วนหนึ่ง แต่เพื่อเป็นการป้องกันภาวะน้ำท่วมจากน้ำล้นตลิ่ง

จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของสำคัญขึ้นไว้บนที่สูง ในช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุนสูงทั้งช่วงเช้าและหัวค่ำ เนื่องจากหากมีฝนตกหนักลงมาสมทบ จะไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน และอาจเกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานานได้

อธิบดีกรมป้องกันฯ กล่าวต่อว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก และปริมณฑล ทั้ง จ.ปทุมธานี นนทบุรี อาจเกิดน้ำท่วมในระดับที่รุนแรงเทียบเท่ากับปี 2538 จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว เตรียมการรับมือภาวะน้ำท่วมไว้ด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ทั้งสุขุมวิท ดินแดง รามคำแหง ลาดพร้าว สีลม พญาไท เมื่อหัวค่ำคืนวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา นั้น เกิดจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน ในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้ไม่สามารถสูบน้ำออกได้ทัน

ที่น่าเป็นห่วงคือ จ.นครสวรรค์ ซึ่งถือเป็นจุดรับน้ำจากแม่น้ำสายสำคัญ 4 สาย ทั้ง ปิง วัง ยม น่าน ที่จะมาบรรจบกันที่ปากน้ำโพ ยังถือว่าอยู่ในช่วงวิกฤติ เนื่องจากจาการคาดการณ์ พบว่า ภายใน 1 สัปดาห์นี้ จะมีน้ำเหนือไหลลงมาอีกระลอกใหญ่ เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน จึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มริมฝั่งเตรียมรับมือเสริมกระสอบทรายคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นกว่าเดิม และให้ระวังภาวะน้ำท่วมไว้ด้วย

อธิบดีกรมป้องกันฯ กล่าวและว่า จากการประสานข้อมูลพยากรณ์อากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า จะมีฝนตกหนักในภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะจ.ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพัทลุง กรมป้องกันฯ จึงได้ประสานไปยังจังหวัดดังกล่าวข้างต้น ให้เตรียมรับมืออันตรายจากภาวะฝนตกหนักอย่างใกล้ชิด ด้วย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์