หมาโจนงับดญ.ใน ´สุวรรณภูมิ´

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสุกัญญา เตยทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/1 ซอยวัดประดู่ฯ ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวง-เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า บุตรสาววัย 8 ขวบ >ถูกสุนัขประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกัด ต้องเข้ารับการรักษาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า อยู่ที่สถานเสาวภา ถนนพระราม 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จึงอยากให้เป็นสื่อกลางฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหามาตรการป้องกัน เกรงว่าสุนัขจะทำร้ายผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ใช้บริการสนามบิน อีกทั้งต้องการให้ตรวจอาการสุนัขทุกตัวว่ามีเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไม่ พร้อมกับรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พบ ด.ญ.นาฏศิลป์ หรือน้องเปียโน เตยทอง อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้นประถมปีที่ 2 โรงเรียนวัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ ถูกสุนัขกัดใต้สะดือ เป็นรอยเขี้ยวงับ 2 เขี้ยว แต่ไม่มีรอยแผลเจาะฝังเข้าเนื้อ มีเพียงรอยเขี้ยวช้ำเท่านั้น แพทย์ต้องฉีดวัคซีนกันพิษสุนัขบ้า ให้จำนวน 5 เข็มที่หัวไหล่ซ้ายและขวา 2 เข็ม รอบสะดือ 2 เข็ม ใต้สะโพก 1 เข็ม และนัดตรวจดูอาการอีก 3 ครั้ง เสียค่ารักษาพยาบาลไปจำนวน 1,800 บาท

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ก.ย. ได้พาครอบครัวลูกหลาน ประมาณ 5-6 คน ไปเที่ยวชมสนามบินสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ขณะเดินชมทิวทัศน์อาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ บริเวณชั้น 4 เด็กๆให้ความสนใจกับเจ้าหน้าที่แต่งกายชุดลายพรางทหารสีขี้ม้า เดินจูงสุนัขเพศเมีย พันธุ์อัลเซเชียน ดมกลิ่นตรวจระเบิดตามเคาน์เตอร์เช็กอินอยู่ในตัวอาคาร จึงเข้าไปขอถ่ายรูปคู่กับสุนัข ขณะที่ตนจะบันทึกเก็บภาพถ่ายน้องเปียโน ลูกสาว ยืนคู่กับสุนัขตัวเขื่องไว้เป็นที่ระลึกอยู่นั้น เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เจ้าสุนัขหน้าขนได้กระโจนเข้างับบริเวณหน้าท้องน้องเปียโน แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้ดึงเชือกคล้องคอสุนัขไว้ทัน เมื่อเปิดดูพบรอยเขี้ยว 2 รอยที่ใต้สะดือ และมีเลือดไหลซิบออกมา จากนั้นพาลูกสาวไปหาหมอประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนหมอแนะนำให้ไปฉีดวัคซีนกันโรคพิษสุนัขบ้า

เมื่อพาลูกสาวมาหาแพทย์ที่สถานเสาวภา ต้องตกใจ เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลแพงมาก และต้องฉีดวัคซีนกันพิษสุนัขบ้าอีกถึง 3 ครั้ง ไม่รู้เป็นต้องเสียเงินเท่าไหร่ อยากฝากผู้เกี่ยวข้องให้รับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่ต้องการเอาความกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด สิ่งสำคัญอยากฝากให้ผู้ใหญ่วางมาตรการป้องกันดูแลสุนัขทุกตัว ที่เฝ้าประจำจุดต่างๆในอาคารผู้โดยสาร ไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้กับผู้อื่น

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ