รร.ดุสิตฯ 12 ต.ค.-นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ค่าเงินบาทขณะนี้เคลื่อนไหวสอดคล้องกับภูมิภาค แต่ยังคงมีความผันผวน โดยช่วงที่ผ่านมาการที่เงินบาทแข็งค่ากว่าดอลลาร์ไม่ได้เกิดทุกวัน และ ธปท.ได้เข้าไปดูแลไม่ให้ผันผวนมาก
สำหรับสาเหตุเงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้น ล่าสุดเกิดจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า
ประกอบกับการนำเข้าสินค้ายังค่อนข้างต่ำแม้การส่งออกจะยังลดลง และราคาทองคำสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าการคาดหมายค่าเงินบาทไม่ง่าย ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องควรทำประกันความเสี่ยง ส่วนทุนนำเข้า มีเข้ามาพอสมควรสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ความมั่นใจนักลงทุนเพิ่มขึ้น
“ขณะนี้มีเงินเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แล้ว 60,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเก็งกำไรค่าเงินบาท แต่เป็นการคาดหมายค่าเงินบาท ซึ่งไม่ง่ายที่จะเป็นไปตามคาดหมาย จึงมีความเสี่ยง ผู้เกี่ยวข้องควรป้องกันความเสี่ยง ขณะที่เงินทุนนำเข้าของต่างชาติ (เอฟดีไอ) มีเข้าปริมาณใกล้เคียงกับปีที่แล้วไม่ลดลงมากตามภาวะเศรษฐกิจโลก ธปท.ยังเน้นดูแลเงินบาทไม่ผันผวนส่วนการนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศนั้น ที่ผ่านมาสามารถลงทุนในตราสารต่างประเทศมากขึ้น” นางธาริษากล่าว
ส่วนความต้องการสินเชื่อของธุรกิจเอสเอ็มอี นั้น นางธาริษา กล่าวว่า ธปท.พยายามดูแล
โดยต้องการให้สถาบันการเงินดูแลสภาพคล่องให้แก่เอสเอ็มอี บางรายธุรกิจอาจสะดุด ซึ่งเป็นผลจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ช่วยผ่อนปรนการชำระหนี้ ซึ่งขณะนี้ ธปท.ร่วมกับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องดูแลปัญหาการปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี.-สำนักข่าวไทย