กรมศิลป์กั้นแนวกันน้ำท่วมวัดไชยวัฒนาราม

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา

พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบความพร้อมการทำเขื่อนป้องกันน้ำท่วมที่หน้าพระตำหนักสิริยาลัย ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันตกของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา โดยทหารกองโรงงานวัตถุระเบิด กรมสรรพวุธทหารบก ได้เร่งทำแนวป้องกันน้ำท่วมแบบน็อคดาวน์ และทำแนวกระสอบทราย  ความยาวกว่า 300 เมตร กั้นด้านหน้าพระตำหนักสิริยาลัย หลังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มระดับมากขึ้นและมีแนวโน้มจะสูงเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดได้มีการเฝ้าเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนที่บริเวณวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานสำคัญที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา กรมศิลปากรได้กั้นแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วมแล้วใช้ผ้าใบปิดทับ 

ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากว่า 400 เมตร เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าไปที่ตัวโบราณสถานได้ ทั้งนี้พบว่าระดับน้ำท่วมสูงกว่าพื้นดินของวัด 50 ซม. โดยเขื่อนสามารถป้องกันน้ำได้ 100% ทั้งนี้กำแพงเขื่อนดังกล่าวสร้างเสร็จเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา มูลค่า 50 ล้านบาท และเริ่มทดสอบระบบป้องกันน้ำท่วมในปีนี้เป็นปีแรก

นายวิทยา กล่าวว่า เขื่อนเจ้าพระยาเร่งปล่อยน้ำที่กว่า 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที่ และเขื่อนพระราม 6 ปล่อยที่ 544 ลบ.ม./วินาที

ทำให้เกิดน้ำท่วมในชุมชนติดแม่น้ำทั้ง 4 สายแล้ว โดยมีการประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมเฉพาะพื้นที่ชุมชนติดน้ำใน 9 อำเภอ 69 ตำบล 310 หมู่บ้าน คือ อ.ผักไห่ เสนา บางไทร บางบาล พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน มหาราช บางปะหัน และนครหลวง บ้านเรือนเดือนร้อนไม่ต่ำกว่า 10,000 หลังคาเรือน  ซึ่งปัจจุบันน้ำท่วมสูงประมาณ 50-100 ซม. ขณะเดียวกันมั่นใจว่าระดับน้ำท่วมจะสูงกว่านี้อีก 60 ซม. ภายในวันที่ 10-12 ต.ค.นี้ และจะมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำท้องกระทะของภาคกลาง