เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผวจ.พังงา พร้อมด้วย ดร.สุพจน์ จันทราภรณ์ศิลป์ นักวิชาการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
เดินทางไปยังบ้านหินลาด ซอยสุเหร่า ต.คุระ อ.คุระบุรี หลังรับแจ้งว่ามีชาวประมงพบ "อำพัน" ที่เกิดจากวาฬหัวทุย สัตว์ทะเลหายากที่ชายหาดเกาะพระทองและกลางทะเลลึก เมื่อไปถึงพบชาวบ้านแห่มุงดูอำพัน ลักษณะคล้ายแท่งน้ำมันสีขาวปนสีเงิน บางส่วนมีสีเหลืองอร่าม ส่งกลิ่นหอม เมื่อสัมผัสจะรู้สึกลื่น
นายชัยรัตน์ โต๊ะหลี อายุ 52 ปี ชาวประมงคุระบุรี เปิดเผยว่าตนเองพร้อมเพื่อนชาวประมงพบอำพันที่ชายหาดเกาะพระ จึงเก็บกลับบ้าน
จากนั้นทราบว่ามีราคาสูงมาก จึงกลับไปที่บริเวณดังกล่าวพบอำพันอีกหลายสิบกิโลกรัม มีคนมาขอซื้อราคากิโลกรัมละ 25,000 บาท แต่ยังไม่ขาย ผู้รู้บอกว่าอำพันทองมีราคาเป็นแสน นำไปทำเป็นยาแก้เคล็ดขัดยอกและแก้ปวดเมื่อยได้
ดร.สุพจน์ กล่าวว่า อำพันเป็นไขมันหรือเป็นส่วนหนึ่งในกระเพาะวาฬหัวทุย จะขับถ่ายออกมาพร้อมกับมูล
มีลักษณะเป็นมันก้อนโตสีเข้มข้น บางส่วนมีสีเหลือง เกิดจากอาหารที่วาฬกินแล้วสะสมอยู่ในช่องกระเพาะอาหารนานๆ จึงจะปล่อยออกมา มีลักษณะเป็นมันมีกลิ่นหอมคล้ายกานพลู สามารถสกัดเป็นหัวน้ำหอมหรือผลิตเป็นส่วนผสมยาจีน อำพันที่พบในครั้งนี้รวมกว่า 300 กิโลกรัม เป็นเครื่องยืนยันว่าชายทะเล จ.พังงา มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งสัตว์น้ำนานาชนิด ดูจากขนาดและความสมบูรณ์ของอำพันที่พบเชื่อว่ามาจากวาฬหัวทุยขนาดใหญ่ ความยาวไม่น้อยกว่า 20 เมตร น้ำหนักมากกว่า 15 ตัน
นายเยี่ยมสุริยา กล่าวว่า เป็นเรื่องดีแสดงให้เห็นว่า จ.พังงา มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นแหล่งอาศัยและหากินของวาฬ และสัตว์ทะเลหายากอีกหลายชนิด
นอกจากมีคุณค่าทางธรรมชาติแล้ว ยังเกิดผลดีกับการท่องเที่ยว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดมีพ่อค้าจากประเทศมาเลเซียมาติดต่อขอซื้อในราคากิโลกรัมละ 70,000 บาท แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ตัดสินใจขาย