เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวถึง การเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุโซนร้อน “กิสนา”
ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า จะส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศของประเทศไทยได้ ในช่วงวันที่ 30 ก.ย.-3 ต.ค. ว่า ได้สั่งการให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือศูนย์นเรนทร ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงตามประกาศเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา ให้เตรียมเวชภัณฑ์ และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พร้อมให้บริการผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง หากเจ็บป่วยฉุกเฉินประชาชนสามารถโทรแจ้งหน่วยแพทย์นเรนทรทางหมายเลข 1669 ฟรี
นายวิทยา กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้สำรองงบประมาณไว้ที่ส่วนกลาง 30 ล้านบาท และสำรองเวชภัณฑ์ ยาสามัญประจำบ้านจำนวนกว่า 1 ล้านชุด
โดยตั้งศูนย์ประสานงานกับจังหวัดที่สำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในปีนี้ได้จัดส่งยาตำราหลวงไปช่วยเหลือจังหวัดต่าง ๆ ที่เคยประสบภัยน้ำท่วมมาแล้ว และเสี่ยงท่วมซ้ำเป็นการล่วงหน้าอีก 37 จังหวัด เช่น ที่ จ.เลย แพร่ เพชรบูรณ์ อุบลราชธานี รวมทั้งหมดกว่า 300,000 ชุด ซึ่งหากประสบภัยจะสามารถนำไปแจกจ่ายประชาชนในการดูแลสุขภาพได้ทันท่วงที
รมว.สาธารณสุข กล่าวด้วยว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งกำลังประสบภัยน้ำท่วมจากพายุโซนร้อนกิสนาอย่างหนักในขณะนี้
กระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้การสนับสนุนทางด้านการแพทย์ และสาธารณสุขตามนโยบายของรัฐบาลไทยทันที เนื่องจากในฐานะที่อยู่ในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยกัน และไทยยังมีประสบการณ์ในการส่งทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุนาร์กีสที่ประเทศพม่าเมื่อปีที่แล้ว
ด้าน นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ
เพื่อประสานกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ หากทางฟิลิปปินส์ร้องขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นด้านบุคลากรการแพทย์ เวชภัณฑ์ และยาช่วยผู้ประสบภัย กระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่.