บีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ว่า พายุโซนร้อนเกศนา ความเร็วลมกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดเข้าถล่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์
ส่งผลให้มีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลเข้าท่วมเขตที่ราบลุ่มในกรุงมะนิลาและพื้นที่ใกล้เคียง พบผู้เสียชีวิตเบื้องต้นแล้วเกือบ 60 ราย ทางการสั่งอพยพประชาชน 1,800 คนจากพื้นที่ประสบภัยรุนแรง นายกิลแบร์โต้ ทีโอโดโร รมว.กลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลประกาศให้กรุงมะนิลา และอีก 25 จังหวัดเป็นเขตภัยพิบัติ หลังจากพายุฝนกระหน่ำ จนสถานการณ์ในเมืองหลวงเลวร้ายที่สุดในรอบ 20 ปี ทางการยังระดมกำลังตำรวจและทหารเข้าไปช่วยประชาชนที่ประสบภัยติดค้างอยู่ตามหลังคาบ้านเรือน
รายงานแจ้งด้วยว่า การจราจรในพื้นที่ประสบภัยต้องหยุดชะงักลง เที่ยวบินทั้งขาเข้าออกต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดีและยามฝั่งสั่งหยุดการเดินเรือเฟอร์รี่ ทำให้มีผู้โดยสารติดค้างอยู่ตามท่าเรือเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตัดไฟฟ้าในบริเวณที่มีน้ำท่วมหนักเพื่อป้องกันการลัดวงจร และมีรายงานว่าเขื่อน 2 แห่งใกล้กรุงมะนิลามีระดับน้ำถึงขีดอันตราย ขณะที่พายุเคลื่อนไปทางฝั่งตะวันตก ข้ามเขตผืนดินของหมู่เกาะลูซอน ในส่วนของไทย กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนว่า พายุดีเปรสชันบริเวณประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้และจะทวีกำลังแรงขึ้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อลมฟ้าอากาศของประเทศไทยในช่วงวันที่ 30 ก.ย.-3 ต.ค. 2552