เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจ.ตราด รายงานว่า พบสาวใหญ่วัย 43 ปี ป่วยเป็นโรคมีสารทองแดงมากผิดปกติ
ส่งผลกระทบต่อสมอง ร่างกายไม่มีแรง ,มีอาการสั่น ขากระดก จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 8/5 หมู่ 3 บ้านบางปรง ต.ห้วยแร้ง อ.เขาสมิง พบนางสงกรานต์ อิงขนร อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน มีบุตรสาวชื่อนางจันทนา อิงขนร อายุ 43 ปี และหลานสาว ชื่อ นางสาวกัณทิมา อิงขนร อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะบริหารจัดการ เอกการเงิน มหาวิทยาลัยราชภัฎ รำไพพรรณี (จันทบุรี) โดยนางจันทิมา นอนอยู่บนเรือน มีอาการสั่น และบางครั้ง แขน,ขา ก็กระดกขึ้น มือ,แขน และเท้ามีอาการเกร็งขยับตัวได้ลำบาก โดย มีนางสงกรานต์ และน.ส.กัณทิมาคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ
นางสงกรานต์ กล่าวว่า มีบุตรสาว 2 คน คือนางจันทิมา อิงขนร อายุ 43 ปี และนางนันทิกา อิงขนร อายุ 37 ปี ทั้ง 2 คนมีสามีแล้ว
โดยนางจันทิมา อิงขนร มีสามีชื่อนายบรรเลง สุขนรา และมีบุตรด้วยกัน 1 คน (นางสาวกัณทิมา) ส่วนนางนันทิกา มีครอบครัวและแยกครอบครัวออกไป นางจันทิมา ได้เลิกกับสามีหลัง คลอดบุตร ได้เพียง 7 เดือน และตนเองได้ช่วยกันดูแลหลานสาวมาโดยตลอด ต่อมาเมื่อนางจันทิมา อายุได้ 24 ปี เริ่มมีอาการเฉื่อย ซึม เดินไม่ตรงทาง ร่วมทั้งไม่มีเรี่ยวแรง บางครั้งเวลาเดินอยู่ก็ล้มหงายหรือหน้าคะมำอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ไม่สามารถไปทำงานหรือประกอบอาชีพอื่นไม่ได้ ตนเองจึงต้องรับภาระเลี้ยงดู ด้วยการ เก็บผัก ค้าขายอาหารตามสั่งอยู่ที่บ้าน
“แต่เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ลูกเริ่มมีอาการหนักขึ้นกว่าเดิม จึงได้พาไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี แพทย์ได้วินิจฉัยแล้วพบว่า เป็นโรคมีสารทองแดงในร่างกายมากผิดปกติ จึงได้จ่ายยา Cuprimine มารับประทาน เพื่อระงับอาการสั่น ซึ่งมีราคาแพงมาก 1 ขวด มี 100 เม็ด ราคา 1,650 บาท ต้องกินวันละ 6 เม็ด (3 มื้อ) แค่ 15-17 วัน ก็หมดแล้ว จึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ และทางราชการ เพราะทุกวันนี้ต้องหาเงินให้หลานไว้ใช้เรียนหนังสือ และยังต้องมาซื้อยา รวมทั้งค่าใช้จ่ายภาย ในบ้าน ตอนนี้ ทำงานไม่ค่อยได้เพราะอายุมาก และต้องคอยดูแลลูกสาวด้วย ทุกวันนี้ในทุกวันศุกร์หลาน จะกลับมาจากเรียน เพื่อมาช่วยดูแลแม่และหารายได้ และรายได้ส่วนหนึ่งก็ต้องแบ่งให้หลานไป บางทีก็ให้ไปแค่ 100 บาท แล้วค่อยหา ส่งไปให้ใหม่ 100-200 บาท เป็นอย่างนี้ทุกอาทิตย์ไป”
ขณะที่น.ส.กัณทิมา กล่าวว่า แม่ป่วยมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ มียายคอยดูแลและส่งให้เรียนหนังสือจนจบ ที่โรงเรียนเขาสมิงวิทยาคม
และเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี จนปัจจุบันขึ้นปีที่ 2 คณะวิทยาการ จัดการ เอกการเงิน แต่แม่มีอาการหนักมากขึ้น ทำให้ยายที่หาเงินเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว ต้องเดือดร้อนเพราะไม่พอใช้ในครอบครัว ขณะนี้กำลังคิดอยู่ว่า อาจจะต้องออกจากการเรียนก่อนชั่วคราว เพื่อมาช่วยดูแลมารดา และช่วยยายทำงาน แม้ขณะนี้จะได้รับเงินกู้เรียนจาก กยศ. แต่ค่าครองชีพไม่เพียงพอ จ่ายค่าหอพักก็หมดแล้ว จึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญขอทุนเรียนหนังสือให้จบเพื่อออกมาทำงานเลี้ยงดูครอบครัวคือแม่และยาย ต่อไป ตอนแรกแม่ไม่ได้เป็นมาก กระทั่ง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ไม่สามารถเดินและทำงานได้ ทำให้ต้องกลับมาบ้านเพื่อช่วยดูแลแม่เท่าที่มีโอกาสทำได้
น.พ.จรัญ บุญญฤทธิกาล ผอ.โรงพยาบาลตราด กล่าวว่า โรคนี้เกิดจากการทำงาน ที่ผิดปกติของตับและไต
ที่ขับถ่ายของเสียอย่างสารทองแดงออกจากร่างกายได้น้อย ทำให้มีการสะสมสารทองแดง ภายใน ร่างกายมาก ซึ่งภายในร่างกายของคนเรามีสารทองแดงอยู่ทุกคน และสาร ดังกล่าวจะได้รับจากหอยแครง เครื่องในสัตว์ เมล็ดถั่วแดง เมื่อรับประทานเข้าไปตับมีหน้าที่ในการกำจัดของเสีย และออกทางไตโดยการปัสสาวะ แต่มีปริมาณมากและขับออกมาน้อยก็จะเกิดผลกระทบกับร่างกายดังคนไข้รายนี้ อย่างไรก็ตามอัตราการเกิดโรคนี้ มีน้อยมาก
“โรคนี้หากเกิดในเด็กจะพบก่อนอายุ 16 ปี และหากเกิดในผู้ใหญ่จะพบก่อนอายุ 34 ปี ผลข้างเคียงของ โรคนี้จะทำให้คนป่วยมีอาการทางจิต ประสาทหลอน ตับอักเสบ ซึ่งผู้ป่วยจะต้องทานยาCuprimineเพื่อควบคุม และรักษาอาการ และในช่วงที่รักษาตัวห้ามรับประทานอาหาร เช่น หอยแครง เมล็ดถัวแดง เครื่องในสัตว์ หากทานเข้าไปจะเป็นการเพิ่มปริมาณทองแดงให้มากขึ้น ส่วนกรณีที่ คนไข้มีบุตร โอกาสเสี่ยงที่บุตรสาวจะเป็นนั้นเป็นไปได้สูง เนื่องจากเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทางที่ดีควรจะไปตรวจและรักษาตัวแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยได้” ผอ.โรงพยาบาลตราดกล่าว