คมชัดลึก : ระหว่างเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้สถานศึกษาทั่วประเทศก็จะปิดภาคเรียนเป็นเวลา 1 เดือน เด็กและเยาวชนในวัยศึกษาได้หยุดอยู่กับบ้าน แต่พ่อแม่หลายคนต้องทำงานหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ไม่มีเวลาดูแลบุตรหลาน ปล่อยให้ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง ซึ่งอาจส่งผลให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ เข้าไปข้องเกี่ยวกับอบายมุขและสิ่งผิดกฎหมายได้ง่าย รวมถึงตกเป็นผู้ถูกกระทำทั้งเรื่องเกี่ยวกับเพศ ยาเสพติด หรือแม้แต่อุบัติเหตุที่ถูกมองข้าม ฯลฯ
ด้วยเหตุนี้ศูนย์สวัสดิภาพเด็กเยาวชนและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศดส.บช.น.) ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเด็กและเยาวชน
ตลอดจนการมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงประสานขอความร่วมมือไปยังสถานีตำรวจท้องที่ จัดอบรมผู้ประกอบการร้านเกมและอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เพื่อให้เข้าใจและถือปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับกฎหมายให้เป็นแนวทางเดียวกัน ป้องปรามไม่ให้เด็กและเยาวชนใช้เป็นแหล่งมั่วสุมกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดและเรื่องทางเพศ
จากข้อมูลที่ พ.ต.ท.จารุต ศรุตยาพร รอง ผกก.ศดส.บช.น.มีอยู่พบว่า ตามปกติแล้วร้านเกมหรืออินเทอร์เน็ตคาเฟ่จะเปิดบริการระหว่างเวลา 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม
แต่ระหว่างปิดภาคเรียนจะขยายเวลาออกไปอีก 2 ชั่วโมง เป็นเปิด 10 โมงเช้าแล้วไปปิดอีกทีตอน 4 ทุ่ม ซึ่งการกระทำลักษณะนี้ถือว่าผิดกฎหมาย ส่วนเด็กที่เข้าไปใช้บริการจะไม่ถือว่าเป็นความผิด ดังนั้น หากถูกจับผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.จารุต บอกว่า เพื่อเป็นการป้องกันจึงประสานไปยังตำรวจท้องที่ทุกแห่ง เรียกผู้ประกอบการร้านเกมและอินเทอร์เน็ตคาเฟ่มาประชุมทำความเข้าใจให้ตรงกัน เพื่อควบคุมการให้บริการแก่เด็กและเยาวชน
นอกจากเรื่องสถานประกอบการอินเทอร์เน็ตแล้ว ศดส.บช.น.ยังให้ความสำคัญกับประเด็นปัญหาอื่นๆ ในช่วงปิดภาคเรียนด้วย
โดยเฉพาะการกระทำผิดทางเพศ ยาเสพติด ตลอดจนการรวมตัวแข่งรถจักรยานยนต์บนทางหลวง ซึ่งนอกจากจะมีความผิดตามกฎหมายจราจรแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน อีกประการที่ตำรวจให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือการป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้ตกเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ตาม
"ปัจจุบันเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการถูกกระทำพอๆ กัน โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับเพศ ขณะนี้มีเด็กผู้ชายตกเป็นเหยื่อในอัตราที่ใกล้เคียงกับเด็กผู้หญิง อันเนื่องมาจากความผิดปกติทางสังคม นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคืออุบัติเหตุที่เกิดกับเด็กและเยาวชน ปัจจุบันนี้จะพบว่ามีอัตราเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะอุบัติเหตุจมน้ำตาย เรื่องนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ อีกเรื่องก็คือทุกวันนี้มีสถิติเด็กพลัดหลงหรือสูญหายเพิ่มมากขึ้นด้วย ในช่วงเวลาปิดเทอมนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรฝากเด็กไว้กับผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ คอยดูแลป้องกันไม่ให้บุตรหลานตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทุกประเภท" รอง ผกก.ศดส.กล่าว
สำหรับแนวทางการป้องกันและวิธีแก้ไขไม่ให้เด็กหรือเยาวชนกระทำผิดกฎหมายหรือตกเป็นผู้ถูกกระทำ สามารถทำได้ง่ายๆ
โดยแบ่งเด็กออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.เด็กอายุระหว่าง 3-13 ปี พ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่ควรปล่อยเด็กไว้ตามลำพัง ควรคอยดูแลเอาใจใส่ให้อยู่ในสายตาเสมอ เนื่องจากในช่วงอายุดังกล่าวนี้ยังเป็นเด็กที่ไม่มีวุฒิภาวะ และไม่สามารถป้องกันตัวได้เมื่อเกิดอันตราย 2.เด็กหรือเยาวชนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น เด็กในช่วงนี้เป็นวัยที่กำลังติดเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ผู้ปกครอง ดังนั้น พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรให้ความรัก ความอบอุ่นเป็นพิเศษ อย่าบังคับหรือกำหนดกฎเกณฑ์ให้เด็กมากเกินไป ควรใช้วิธีทำความเข้าใจ คอยให้คำปรึกษาแนะนำเวลาเด็กมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม หากพ่อแม่ผู้ปกครองมีปัญหาเกี่ยวกับบุตรหลาน สามารถติดต่อสอบถามมายังฮอตไลน์สายด่วนปัญหาเด็ก หมายเลขโทรศัพท์ 0-2629-9900 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามได้ที่เว็บไซต์ www.sordorsor.com