3บริษัทรถยนต์มะกันจ่อลงทุนไทย3หมื่นล้าน

ประธานทีทีอาร์ ระบุ 3 บริษัทรถยนต์มะกันยักษ์ใหญ่ เตรียมจ่อลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นกว่า3หมื่นล้านบาท บ่งบอกสัญญาณการลงทุนในประเทศเริ่มดีขึ้น...

วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference)  จากประเทศสหรัฐอเมริกามายังศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาลวานนี้( 23 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ว่า ทางสำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)ได้จัดกิจกรรม LuncheonRoundtable ร่วมกับผู้บริหารกลุ่มบริษัทผู้ลงทุนของสหรัฐฯที่เป็นผู้ลงทุนหลักในประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(สสปน.)ได้จัดให้พบกับนัก ธุรกิจในอุตสาหกรรมการจัดประชุมและนิทรรศการทั้งนักลงทุนและนักธุรกิจชาวสหรัฐฯทั้งสองส่วนนั้นมีความประทับใจประเทศไทยอยู่แล้วเพราะเคยเข้ามาลงทุน และจัดกิจกรรมในไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนใหญ่ได้สอบถามนโยบายของรัฐบาลและมองว่าแผน ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง จะทำให้เกิดโอกาสในการขยายธุรกิจและการลงทุนได้โดยเฉพาะทางด้านสินค้าเกษตร ขณะเดียวกันนักลงทุนบางรายได้นำเสนอปัญหาเกี่ยวกับปัญหาในการจัดเก็บภาษีศุลกากรการจดทะเบียน การขออนุญาตทำงาน ในไทย ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าต่อไปจะสามารถใช้บริการ“One Stop One Start Service” ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งจะทำให้สะดวกมากขึ้น

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงและบีโอไอได้จัดให้นายกฯพบกับนักลงทุนระดับประธานเจ้า หน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯซึ่งบรรยากาศการหารือดีมากซึ่งบริษัทเหล่านี้แสดงความสนใจที่จะต่อยอดการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติม แน่นอนเช่น บริษัทฟอร์ด ,บริษัท จีเอ็ม ,บริษัท ไครสเลอร์ ,บริษัท อเมริกันเอ็กซเพลส เอ็กซเซลล์ ,บริษัท การ์เดี้ยน ,บริษัทไทรอั้ม เอวิชั่น,บริษัท ดาวเคมีคอล จำกัด บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล , บริษัท ซีเกรท และบริษัทคาร์กิ้น

ด้านนายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนทางการค้าไทย(ทีทีอาร์) กล่่าวด้วยว่า บรรยากาศของนักลงทุนที่เข้าร่วมในงานนี้มีความสนใจลงทุนในไทยอยู่แล้วและ เมื่อได้พบกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง ที่ได้ส่งสัญญาณให้เห็นว่าให้ความสำคัญและอยากเห็นการเข้ามาลงทุนในไทยยิ่ง ทำให้นักลงทุนมั่นใจเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มี 3บริษัทรถยนต์ที่จะลงทุนเพิ่มขึ้นแน่นอนคือ ฟอร์ด จีเอ็ม และ ไครสเลอร์รายละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และบริษัทโคคาโคลา อีก 1,000 ล้านบาท ขณะที่บริษัท การ์เดี้ยน สนใจร่วมลงทุนตั้งศูนย์กระจายสินค้าเกษตรในภูมิภาคนี้เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยทางด้านอาหารร่วมกับไทย