เสี่ยร้านขายปุ๋ยเก็บเงินได้เกือบแสนคืนชาวนา

โลกนี้ยังมีคนดี เจ้าของร้านปุ๋ยที่กำแพงเพชร เก็บเงิน 8 หมื่น คืนหลังชาวนาทำหล่นภายในตู้ ATM  นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาตัวเจ้าของจนพบ มอบคืนต่อหน้าผู้บังคับการ

        ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (23 ก.ย.) ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมภูธรจังหวัดกำแพงเพชร พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ได้มอบเกียรติบัตรให้กับนายศิริชัย สันติสำราญ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234/5 ม.ที่ 2 ต.ท่ามะเขือ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เพื่อประกาศเกียรติคุณ ในความเป็นคนดีซื่อสัตย์ของนายศิริชัย

        สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) นายศิริชัยได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองขลุง แล้วเก็บเงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท  จำนวน 80,000บาท โดยเงินปึกดังกล่าวตกอยู่ที่พื้น จึงได้นำเงินเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.วินัย อ่อนสุวรรณากุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองขลุงสืบหาและคืนเงินดังกล่าวให้กับเจ้าของ

        ต่อมานางไพฑูลย์ สดใส อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 433/10 ม.ที่ ต.ท่ามะเขือ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำเงินหล่นหายไป 80,000บาท ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองขลุง

        หลังจากสอบสวนแล้ว ทราบแน่ชัดว่าเงินที่นายศิริชัยเก็บได้ เป็นเงินของนายไพฑูลย์ จึงได้นัดหมายให้มามอบคืนกันต่อหน้า พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ในขณะที่กำลังมีการประชุมประจำเดือนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ท่ามกลางความชื่นชมของผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด

        พล.ต.ต.ศิรินทร์ กล่าวขอขอบคุณในความดี มีความซื่อสัตย์และมีคุณธรรม ที่เก็บเงินได้แล้วนำมาคืนเจ้าของ สำหรับเกียรติบัตรที่มอบให้เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณในความดีและมีน้ำใจของนายศิริชัย ซึ่งมีอาชีพเปิดร้านจำหน่ายปุ๋ย และยาเคมีที่ใช้ในการเกษตร

        ด้านนางไพฑูลย์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนได้นำข้าวเปลือกไปขาย ทางท่าข้าวจ่ายเช็คมาให้ จึงนำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขคลองขลุง หลังจากได้เงินมาแล้วก็นำมาหนีบไว้กับกระเป๋าถือ แล้วออกไปที่ตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเช็คยอดเงินในบัญชี คาดว่าในเวลานั้นเงินจำนวนดังกล่าวคงหล่น โดยที่ไม่ได้สังเกตุ เมื่อเช็คยอดเงินเรียบร้อยก็เดินทางกลับบ้าน พอถึงบ้านก็ต้องตกใจแทบช็อกเพราะเงินที่ขายข้าวมาหล่นหายไปหมด จากนั้น ได้พยายามทบทวนดูจนแน่ใจว่าทำหล่นในตู้เอทีเอ็ม จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคิดว่าคงไม่ได้เงินคืนแล้ว แต่พอได้คืนมาก็ดีใจจนบอกไม่ถูก เพราะเงินจำนวนดังกล่าว ต้องทำนานาน ถึง 4 เดือน และหลังจากขายข้าวแล้วจะนำเงินไปใช้หนี้ค่าปุ๋ยยาและเงินที่กู้มาลงทุน

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นางไพฑูลย์ได้พบหน้านายศิริชัย นางไพฑูลย์ได้ตรงเข้ากอดพร้อมกล่าวขอบคุณนายศิริชัยไม่ขาดปาก และกล่าวว่าไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีคนดีมีคุณธรรมอย่างนายศิริชัยในโลกนี้อีก จากนั้นนางไพฑูลย์ได้มอบเงินให้นายศิริชัยจำนวน 3.000บาท แต่นายไพฑูลย์ได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวต่อให้กับสมาคมนักหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนกำแพงเพชร เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กต่อไป