นายกรัฐมนตรีเตรียมย้ำต่อที่ประชุมจี 20 ขอให้ประเทศกำลังพัฒนา มีส่วนร่วมกำหนดกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแล “เงินทุน” ไม่มีการกีดกันทางการค้า ขณะเดียวกัน จะขอให้ไทยมีสิทธิออกเสียงในธนาคารโลก-ไอเอ็มเอฟ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมประชุมรัฐมนตรีกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือการประชุมจี 20 ในวันศุกร์ที่ 25 ก.ย.ที่เมืองพิสต์เบิร์ก รัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกาว่า ไทยจะเข้าร่วมในฐานะประธานอาเซียนต่อเนื่องจากการประชุมที่ลอนดอน ซึ่งจะมีหัวข้อหารือในประเด็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ระบบการกำกับดูแลเรื่องของเงินทุน และการปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารโลก รวมไปถึงประเด็นความมั่นคงทางอาหาร การช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนา
สำหรับบทบาทของไทยในเวทีจี 20 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะย้ำต่อที่ประชุมว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และต้องสามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรที่จะไม่กระทบต่อปัญหาเงินเฟ้อ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ในแง่กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลในเรื่องของเงินทุน ต้องการโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนาในการมีส่วนร่วม
"การปฏิรูปสถาบันการเงิน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ธนาคารโลก ไทยต้องการเข้าไปมีส่วนในการออกสิทธิ์ออกเสียงในองค์กรเหล่านี้ให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าองค์กรระหว่างประเทศในลักษณะนี้ ที่ผ่านมาค่อนข้างจะจำกัดบทบาทประเทศที่กำลังพัฒนามาก" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยไม่เห็นด้วยกับการกีดกันทางการค้า และต้องการสนับสนุนให้การเจรจาการค้าประสบความสำเร็จโดยเร็ว โดยจะยืนยันตัวอย่างการทำงานในอาเซียน ที่เดินหน้าขยายข้อตกลงความร่วมมือเศรษฐกิจ การค้า อย่างต่อเนื่องกับประเทศคู่ค้า และจากข้อริเริ่มเชียงใหม่ที่ขยายออกไป เพื่อเป็นแบบอย่างความร่วมมือในการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบการเงินด้วย เพราะการฟื้นตัวเศรษฐกิจทุกประเทศขณะนี้ ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน หากประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งฟื้น แต่ที่อื่นไม่ฟื้น ก็จะไม่ใช่การฟื้นตัวที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
ไทยจะขอมีสิทธิออกเสียงในธนาคารโลก
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!